ชีวภาพป้องกันแมลง ตราโกลเด้น ฟลาวเวอร์: ฉีดพ่นให้ทั่วลำต้น เพื่อให้ต้นไม้แข็งแรง เพื่อป้องกัน เพลี้ยไฟ แมลงก้นทอง หนอนคืบ หนอนชอนใบ

ปริมาณธาตุอาหารรอง: แมกนีเซี่ยมที่ละลายน้ำ (Mg) 6%

อัตราการใช้ :

พืชกลุ่มที่ 1: แตงต่างๆ ถั่วฝักยาว ถั่วลันเตา มะเขือต่างๆ ไม้ประดับ และไม้ผล --> ใช้ โกลเด้น ฟลาวเวอร์ ป้องกันแมลง 30-40ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร

พืชกลุ่มที่ 2: พืชผักตระกูลกระหล่ำ--> ใช้ โกลเด้น ฟลาวเวอร์ ป้องกันแมลง 30-40ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร

พืชกลุ่มที่ 3: พืชหัว หอม แครอท มันฝรั่ง สับปะรด--> ใช้ โกลเด้น ฟลาวเวอร์ ป้องกันแมลง 30-40ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร

พืชกลุ่มที่ 4: ข้าว--> เริ่มฉีดครั้งแรก ในระยะต้นกล้า เมื่อข้าวมีอายุ 20-30 วัน ในอัตรา 30-40ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร, ฉีดพ่นครั้งต่อไป เว้นระยะ 15 วัน และระยะตั้งท้อง ในอัตรา 30-40ซีซี ต่อน้ำ 20ลิตร โดยฉีด 2 ครั้ง ครั้งต่อไป เว้นระยะ 15วัน



วิธีการใช้: พ่นให้เป็นฝอยละอองเล็กๆ พอเปียกทั่วใบ และทุกๆส่วนของพืช ทุก7-10 วัน


ปุ๋ยเหลวอาจมีก๊าซเกิดขึ้น และอาจเป็นอันตรายได้ง่าย ควรเปิดด้วยความระมัดระวัง


**โหลละ 315 บาท***




ปลีก-ส่ง: โทร 081-9111285, 093-7411169

ประโยชน์: ใช้ป้องกันและกำจัดเพลี้ยไฟ

อัตราการใช้: ลาลเนด้า 2 กรัม ผสมน้ำ 20 ลิตร พ่นเมื่อพบการระบาดของเพลี้ยไฟ

ชื่อสามัญ: ฟิโพรนิล (fipronil)


กลุ่มสารเคมี: Phenylpyrazole



** สามารถใช้ กำจัดปลวก มด หนอน แมลง อื่นๆ ได้ด้วย ***

***แถม หัวเขื้อ 1 ขวด, สำหรับผสมน้ำเพิ่มได้อีก 1 ขวด(500ซีซี)***


ชีวภาพป้องกันศัตรูพืช กำจัดแมลง หนอนชอนใบ เพลี้ย เหมาะสำหรับต้นไม้ทุกชนิด


คุณสมบัติ:
ไบโอ-ไวท์ ทำให้พืชผลผิวเป็นมันสะอาด ไม่เป็นพิษต่อมนุษย์และสัตว์เลี้ยง ใช้ได้กับไม้ดอก ไม้ประดับ และพืชต่างๆ เช่น ทุเรียน มังคุด เงาะ ฟักแฟง แตงกวา แตงโม พริก มะเขือ หอม กระเทียม กะหล่ำปลี กะหล่ำดอก พืชผักต่างๆ มะระ บวบ องุ่น ส้ม มะนาว ละมุด พุทรา มะม่วง ชมพู่ มะปราง ฝ้าย กาแฟ มันฝรั่ง ถั่วต่างๆ


ประโยชน์:
สามารถกำจัดและป้องกันไรแดง หนอน และเพลี้ยต่างๆได้เป็นอย่างดี ใช้ได้กับไม้ดอก ไม้ประดับ พืชผลต่างๆ นับแต่เริ่มปลูก จนตลอดอายุของพืช ไม่เป็นอันตรายใดๆต่อพืช เมื่อใช้แล้วตัวยานี้จะซึมซาบเข้าไปในส่วนต่างๆของพืชได้อย่างรวดเร็ว ทำให้เจริญเติบโตรวดเร็ว แข็งแรง เร่งการออกดอก ออกผล เพิ่มปริมาณผลผลิต นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันโรคอื่นๆได้ เช่น โรคดอกร่วง โรคผลร่วง โรคใบเหี่ยว โรคใบจุด ใบลาย ใบหงิก โรคโคนเน่า โรคขี้เรื้อน โรคแผลแตก โรคผลเน่า และอื่นๆ


วิธีและอัตราการใช้:
- เขย่าขวดก่อนใช้ทุกครั้ง
- คลายหัวฉีดที่ล็อคอยู่ ปรับตั้งหัวฉีดให้น้ำที่ออกมาเป็นฝอยๆ
- ฉีดช่วงเช้า หรือตอนเย็นที่อากาศไม่ร้อน
- ฉีดพ่นให้ทั่วทุกส่วนของพืช ทุก 5-7 วัน
- พืชที่ได้รับการฉีดพ่นแล้วจะดูสดใส และใบเป็นมันสะอาด


* จำหน่ายปลีก/ ส่ง: ติดต่อ คุณเปิ้ล/ 081-9111285 *

เป็นสะเดาบด ที่ผลิตจาก ผลสะเดา 100% (ไม่มีส่วนอื่นปน) ที่มีคุณภาพดี สามารถเก็บไว้ได้นาน ไม่ขึ้นรา สามารถใช้ได้ทั้งในรูปผงแห้ง และน้ำ เมื่อนำมาแช่น้ำ จะได้สารสกัดสะเดาที่มีคุณภาพดี มีฤทธิ์หลายอย่าง ได้แก่

- เป็นสารไล่แมลง ทำให้หนอน และตัวเต็มวัยของศัตรูพืชไม่อยากเข้ามาบริเวณที่ใช้สารสะเดา
- ยับยั้งการกินของแมลง ยับยั้งการเจริญเติบโตของไข่ หนอน และดักแด้
- ทำให้หนอนหรือตัวอ่อนของแมลง ลอกคราบไม่ได้แล้วตายในที่สุด
- ยับยั้งการผลิตและการวางไข่ของแม่ผีเสื้อ ไข่ที่ถูกวางไม่ค่อยฟัก ตัวอ่อนหรือหนอนจะเกิดใหม่น้อยลง
- ไม่ทำลายแมลงศัตรูธรรมชาติที่มีประโยชน์ เช่น แมลงห้ำ แมลงเบียน แมลงผสมเกษร
- ไม่มีสารพิษตกค้างในพืชผัก ผลไม้ และผลผลิตทางการเกษตรอื่นๆ ปลอดภัยต่อสิ่งมีชีวิต สัตว์เลี้ยง และสิ่งแวดล้อม

วิธีการใช้:
1. นำถุงผ้าบรรจุผงสะเดา 1ก.ก. ออกจากถุงพลาสติก แช่ในถุงที่บรรจุน้ำ 20 ลิตร นานปนะมาณ 8-24ชม.
2. ในระหว่างแช่น้ำ อาจบีบนวด ถุงบรรจุสะเดาบ้างเป็นครั้งคราว แต่ต้องระวังถุงผ้าฉีกขาด
3. ก่อนใช้ ให้บีบถุงบรรจุผงสะเดาให้แห้ง นำน้ำสะเดาที่ได้ไปเติมน้ำเพิ่มขึ้นตามอัตราส่วนการใช้ของพืชแต่ละชนิด
4. ผงสะเดาที่แช่น้ำแล้ว นำไปหว่านลงดิน เพื่อเป็นปุ๋ยและช่วยไล่แมลงในดิน

อัตราการใช้:
นำน้ำสะเดาที่แช่ได้ 20ลิตรข้างต้น มาเติมน้ำเพิ่มขึ้นตามชนิดของพืช และเติมสารจับใบตามคำแนะนำ พ่นให้ทั่วบริเวณที่จะถูกทำลายขณะที่พืชยังเล็กอยู่ ก่อนการระบาดของแมลงหรือใช้เป็นประจำ

พืชผัก: คะน้า กวางตุ้ง กะหล่ำปลี ผักกาดขาว ผักกาดเขียว ถั่วฝักยาว หน่อไม้ฝรั่ง บวบ มะระ ผักหวานและผักอื่นๆ ผสมน้ำเป็น 40-60 ลิตร พ่นห่างกันทุก 5-7วัน

ไม้ดอก ไม้ประดับ: ผสมน้ำเป็น 60-80 ลิตร พ่นห่างกันทุก 7-10วัน

พืชไร่: ผสมน้ำเป็น 80-100 ลิตร พ่นห่างกันทุก 7-10วัน

ไม้ผลและนาข้าว: ผสมน้ำเป็น 100-200 ลิตร พ่นห่างกันทุก 7-10วัน


หมายเหตุ: เราสามารถนำสะเดาบดไปใช้ได้เลย โดยไม่ต้องนำไปน้ำสะเดาก่อนก็ได้ โดยนำผงสะเดาบดหว่านให้ทั่วกระถาง แปลงเพาะ เพื่อป้องกันและกำจัดแมลง


**************

**ปลีก-ส่ง: ติดต่อ/0819111285**

เป็นสะเดาบด ที่ผลิตจาก ผลสะเดา 100% (ไม่มีส่วนอื่นปน) ที่มีคุณภาพดี สามารถเก็บไว้ได้นาน ไม่ขึ้นรา สามารถใช้ได้ทั้งในรูปผงแห้ง และน้ำ เมื่อนำมาแช่น้ำ จะได้สารสกัดสะเดาที่มีคุณภาพดี มีฤทธิ์หลายอย่าง ได้แก่

- เป็นสารไล่แมลง ทำให้หนอน และตัวเต็มวัยของศัตรูพืชไม่อยากเข้ามาบริเวณที่ใช้สารสะเดา
- ยับยั้งการกินของแมลง ยับยั้งการเจริญเติบโตของไข่ หนอน และดักแด้
- ทำให้หนอนหรือตัวอ่อนของแมลง ลอกคราบไม่ได้แล้วตายในที่สุด
- ยับยั้งการผลิตและการวางไข่ของแม่ผีเสื้อ ไข่ที่ถูกวางไม่ค่อยฟัก ตัวอ่อนหรือหนอนจะเกิดใหม่น้อยลง
- ไม่ทำลายแมลงศัตรูธรรมชาติที่มีประโยชน์ เช่น แมลงห้ำ แมลงเบียน แมลงผสมเกษร
- ไม่มีสารพิษตกค้างในพืชผัก ผลไม้ และผลผลิตทางการเกษตรอื่นๆ ปลอดภัยต่อสิ่งมีชีวิต สัตว์เลี้ยง และสิ่งแวดล้อม

วิธีการใช้:
1. นำถุงผ้าบรรจุผงสะเดา 1ก.ก. ออกจากถุงพลาสติก แช่ในถุงที่บรรจุน้ำ 20 ลิตร นานปนะมาณ 8-24ชม.
2. ในระหว่างแช่น้ำ อาจบีบนวด ถุงบรรจุสะเดาบ้างเป็นครั้งคราว แต่ต้องระวังถุงผ้าฉีกขาด
3. ก่อนใช้ ให้บีบถุงบรรจุผงสะเดาให้แห้ง นำน้ำสะเดาที่ได้ไปเติมน้ำเพิ่มขึ้นตามอัตราส่วนการใช้ของพืชแต่ละชนิด
4. ผงสะเดาที่แช่น้ำแล้ว นำไปหว่านลงดิน เพื่อเป็นปุ๋ยและช่วยไล่แมลงในดิน

อัตราการใช้:
นำน้ำสะเดาที่แช่ได้ 20ลิตรข้างต้น มาเติมน้ำเพิ่มขึ้นตามชนิดของพืช และเติมสารจับใบตามคำแนะนำ พ่นให้ทั่วบริเวณที่จะถูกทำลายขณะที่พืชยังเล็กอยู่ ก่อนการระบาดของแมลงหรือใช้เป็นประจำ

พืชผัก: คะน้า กวางตุ้ง กะหล่ำปลี ผักกาดขาว ผักกาดเขียว ถั่วฝักยาว หน่อไม้ฝรั่ง บวบ มะระ ผักหวานและผักอื่นๆ ผสมน้ำเป็น 40-60 ลิตร พ่นห่างกันทุก 5-7วัน

ไม้ดอก ไม้ประดับ: ผสมน้ำเป็น 60-80 ลิตร พ่นห่างกันทุก 7-10วัน

พืชไร่: ผสมน้ำเป็น 80-100 ลิตร พ่นห่างกันทุก 7-10วัน

ไม้ผลและนาข้าว: ผสมน้ำเป็น 100-200 ลิตร พ่นห่างกันทุก 7-10วัน


หมายเหตุ: เราสามารถนำสะเดาบดไปใช้ได้เลย โดยไม่ต้องนำไปน้ำสะเดาก่อนก็ได้ โดยนำผงสะเดาบดหว่านให้ทั่วกระถาง แปลงเพาะ เพื่อป้องกันและกำจัดแมลง


**************

**ปลีก-ส่ง: ติดต่อ/0819111285**

ประโยชน์: ใช้ป้องกันและกำจัดด้วงเต่าแตงแดงในแตงกวา

วิธีใช้: ใช้อัตรา 2 กรัม ต่อหลุมปลูก รองก้นหลุมแตงกวาเพื่อป้องกันกำจัดด้วงเต่าแตงแดงในแตงกวา




ชื่อสามัญ: ไดโนทีฟูแรน (dinotefuran)

กลุ่มสารเคมี: Neonicotinoid

ประโยชน์: ใช้ป้องกันและกำจัดเพลี้ยไฟพริก เพลี้ยไก่แจ้

อัตราการใช้: โปรวาโด 2-3 กรัม ผสมน้ำ 20 ลิตร พ่นเมื่อพบการระบาดของเพลี้ยไฟพริก เพลี้ยไก่แจ้ ในส้ม ทุเรียน และพืชทุกชนิด

ชื่อสามัญ: อิมิดาโคลพริต (imidacloprid)

กลุ่มสารเคมี: Neonicotinoid

ประโยชน์ : ใช้ป้องกันกำจัดเพลี้ยไฟในพริก
วิธีใช้ : ใข้อัตรา 20 มิลลิลิตร ต่อน้ำ 20 ลิตร พ่นให้ทั่วเมื่อพบการระบาดของเพลี้ยไฟในพริก

วิธีเก็บรักษา : ต้องเก็บ อะบาเมกติน ให้มิดชิดในภาชนะเดิมที่ปิดแน่นมีฉลากติดอยู่และไม่ให้ถูกแสงแดด สถานที่เก็บต้องแห้งและเย็น ห่างไกลจากเด็ก อาหาร น้ำดื่ม สัตว์เลี้ยง และเปลวไฟ

คำเตือน : อะบาเมกติน เป็นวัตถุอันตรายที่มีพิษ ต้องใช้ด้วยความระมัดระวังเพื่อป้องกันมิให้อันตรายต่อผู้ใช้และสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ผู้ใช้ต้องปฏิบัติดังนี้ 1.ห้ามดื่มน้ำ กินอาหารหรือสูบบุหรี่ในขณะปฏิบัติงาน และห้ามนำสัตว์เข้าไปในบริเวณที่พ่นสารอย่างน้อย 24 ชั่วโมง ห้ามเทสารที่เหลือหรือล้างภาชนะบรรจุอุปกรณ์ เครื่องพ่นสารลงในแม่น้ำลำคลอง หรือบริเวณใกล้เคียง เมื่อใช้สารฯหมดแล้ว ห้ามใช้ไฟเผาภาชนะบรรจุหรือนำกลับไปใช้อีก ห้ามเด็กและผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปในบริเวณที่กำลังพ่นสาร 2.ขณะผสมต้องสวมถุงมือยางและหน้ากากเพื่อป้องกันมิให้สารเข้มข้นถูกผิวหนังและกระเด็นเข้าตา การผสมให้ใช้ไม้กวนขณะพ่นสารต้องอยู่เหนือลมเสมอ และการสวมถุงมือยางและหน้ากากต้องล้างมือและหน้าให้สะอาดด้วยสบู่และน้ำ ก่อนกินอาหาร ดื่มน้ำ หรือสูบบุหรี่ หลังจากทำงานเสร็จแล้ว ต้องอาบน้ำ สระผม เปลี่ยนเสื้อผ้าและซักชุดที่สวมใส่ให้สะอาด ภาชนะบรรจุเมื่อใช้หมดแล้วให้กลั้วล้างด้วยน้ำ 3 ครั้ง และรวมเอาน้ำล้างไปใช้ผสมพ่นสาร กำจัดภาชนะโดยทำลายแล้วฝังดิน หรือรวมทิ้งให้ปลอดภัย 3.ระวังอย่าให้เข้าปาก ตา จมูก หรือถูกผิวหนังและเสื้อผ้า 4.การใช้สารกำจัดแมลงซึ่งอยู่ในหมายเลขกลุ่มเดียวกัน ติดต่อกันเป็นเวลานาน อาจก่อให้เกิดความต้านทานของแมลง 5.มีฤกธิ์กัดกร่อนตาขณะผสมหรือพ่นสาร ต้องสวมแว่นตาป้องกันสารเข้าตา 6.เป็นพิษต่อนกให้ใช้ด้วยความระมัดระวังเป็นพิษสูงต่อปลาและสัตว์น้ำอื่นๆต้องระวังการชะล้างลงสู่แหล่งน้ำเป็นพิษต่อผึ้งให้ใช้ด้วยความระมัดระวัง 7.ห้ามเก็บเกี่ยวพริก ภายใน 3 วัน หลังจากพ่นสารครั้งสุดท้าย 8.เป็นผลิตภัณต์ที่ก่อให้เกิดการระบาดเพิ่มของเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล ห้ามใช้ในนาข้าว

ประโยชน์: ใช้กำจัดหนอน แมลง เพลี้ย เพลี้ยไก่แจ้ ด้วง มวน เป็นต้น

อัตราการใช้: โกลวิน-85 จำนวน 40 กรัม ผสมน้ำ 20 ลิตร พ่นเมื่อพบหนอน แมลง หรือใบถูกทำลาย

ชื่อสามัญ: คาบาริล Carbaryl

กลุ่มสารเคมี: carbamate (กลุ่ม 1A)

สารสำคัญ: 1-naphthyl methylcarbamate 85% WP

ชื่อและอัตราส่วนของสารสำคัญ: ไซเพอร์เมทริน (cypermethrin) 3% w/w

ประโยชน์: กำจัดแมลง และสัตว์รบกวน
ใช้ป้องกันกำจัดแมลงคลาน เช่น แมลงสาบ มด ในโรงเรือนสัตว์เลี้ยง โรงฆ่าสัตว์ โรงงานแปรรูปผลิตภัณฑ์สัตว์ และโรงงานผลิตอาหารสัตว์


วิธีใช้:
- ผสมเฟอร์นอค 3 จี กับน้ำในอัตราส่วน 5 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นตามทางเดิน แหล่งเกาะพัก ซอกมุม ที่หลบซ่อนของแมลง ภายใน และภายนอก อาคาร โดยฉีดพ่นในอัตรา 1 ลิตร ต่อพื้นที่ 20 ตารางเมตร

1. ห้ามฉีดพ่นขณะทำการผลิต
2. ก่อนการฉีดพ่นให้ปกปิดพื้นผิวที่เกี่ยวข้องกับการผลิต หรือเคลื่อนย้ายวัตถุดิบ ภาชนะ ออกจากบริเวณที่ฉีดพ่น
3. ภายหลังการฉีดพ่น ให้ทำความสะอาดพื้นผิว หรือบริเวณที่ฉีดพ่นก่อนการปฎิบัติงานครั้งถัดไป

ประโยชน์: ใช้ป้องกัน กำจัดไรแดง แอฟริกันในทุเรียน

วิธีใช้: ใช้อัตรา 10 มิลลิลิตร ต่อน้ำ 20 ลิตร พ่นเมื่อพบการระบาดของไรแดง



กลุ่มสารเคมี: Acaricide [กลุ่ม 21A ]

สารสำคัญ: tert-butyl (E)-a-(1,3-dimethyl-5-phenoxypyrazol-4-ylmethyleneamino-oxy) -p-toluate 5% W/V SC


วิธีการเก็บรักษา: ต้องเก็บอีทุส ในภาชนะเดิมที่ปิดแน่น มีฉลากติดอยู่ และไม่ให้ถูกแสงแดด สถานที่เก็บต้องแห้งและเย็น ห่างไกลจากเด็ก อาหาร น้ำดื่ม สัตว์เลี้ยง และเปลวไฟ

กาวดักแมลงวัน ใช้ดักแมลงวันทั่วไป หรือแมลงวันทองได้

สะดวกใช้ อนามัยดี ไม่มีสารพิษ

ปริมาณบรรจุ:

: 1 ซอง บรรจุ 6 แผ่น
: ขนาดแผ่น=กxย= 18.5ซม.x25ซม. โดยประมาณ


------------------


ประโยชน์: ใช้ดักแมลงวัน และแมลงวันทอง(ในระยะ5เมตรจากแผ่นกาว)

วิธีใช้: วางแผ่นกาวดักแมลงวัน หรือพันติดกับขวดพลาสติก หรือพันติดกับกระดาษแข็งพับตั้งฉากสามเหลี่ยม ในบริเวณที่มีกลิ่นเหม็นหรือฉุน เช่น ใกล้จุดทิ้งขยะ ห้องครัว ห้องรับประทานอาหาร ตามตลาด และฟาร์มต่างๆ เป็นต้น


ข้อแนะนำ:
1. กาวพิเศษใช้กำจัดแมลงวันทอง ที่เจาะกินผลผลิตเสียหาย โดยนำแผ่นกาวดักแมลงวัน ไปแขวนไว้ใต้ต้นไม้ที่มีผลผลิต
2. กาวดักแมลงวัน นี้ ยังคงมีประสิทธิภาพ ในการกำจัดแมลงวันเหมือนเดิม แม้แผ่นกาวจะเปียกน้ำ



วิธีเก็บรักษา:
1. ควรเก็บแผ่นกาวดักแมลงวันนี้ให้ห่างจากเด็ก
2. กรณีที่กาวสัมผัสโดนมือ เสื้อผ้า และสิ่งของ ให้ใช้น้ำมันก๊าด หรือ น้ำมันพืชเช็ดออก แล้วจึงล้างทำความสะอาดด้วยผงซักฟอก หรือน้ำยาล้างจาน
3. ภายหลังการใช้กาวดักแมลงวัน ควรเก็บใส่ถุงปิดปากให้มิดชิดก่อนนำไปทิ้งถังขยะ
4. เก็บไว้ในที่แห้ง พ้นจากแสงแดด

วิธีการใช้:
นำเมทริลยูจินอล 3-4หยด+ยาฆ่าแมลง หยดให้เกือบชุ่มบน เศษผ้า จากนั้นนำไปวางในกรงดักแมลงวันทอง เมือแมงวันทองบินเข้ามาในกรงแล้วจะตาย หมายเหตุ: เติมเมทริลยูจินอล+ยาฆ่าแมลง ทุก 10 วัน

ประโยชน์ : ใช้ป้องกันกำจัดเพลี้ยไฟในพริก
วิธีใช้ : ใข้อัตรา 20 มิลลิลิตร ต่อน้ำ 20 ลิตร พ่นให้ทั่วเมื่อพบการระบาดของเพลี้ยไฟในพริก

วิธีเก็บรักษา : ต้องเก็บ อะบาเมกติน ให้มิดชิดในภาชนะเดิมที่ปิดแน่นมีฉลากติดอยู่และไม่ให้ถูกแสงแดด สถานที่เก็บต้องแห้งและเย็น ห่างไกลจากเด็ก อาหาร น้ำดื่ม สัตว์เลี้ยง และเปลวไฟ

คำเตือน : อะบาเมกติน เป็นวัตถุอันตรายที่มีพิษ ต้องใช้ด้วยความระมัดระวังเพื่อป้องกันมิให้อันตรายต่อผู้ใช้และสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ผู้ใช้ต้องปฏิบัติดังนี้ 1.ห้ามดื่มน้ำ กินอาหารหรือสูบบุหรี่ในขณะปฏิบัติงาน และห้ามนำสัตว์เข้าไปในบริเวณที่พ่นสารอย่างน้อย 24 ชั่วโมง ห้ามเทสารที่เหลือหรือล้างภาชนะบรรจุอุปกรณ์ เครื่องพ่นสารลงในแม่น้ำลำคลอง หรือบริเวณใกล้เคียง เมื่อใช้สารฯหมดแล้ว ห้ามใช้ไฟเผาภาชนะบรรจุหรือนำกลับไปใช้อีก ห้ามเด็กและผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปในบริเวณที่กำลังพ่นสาร 2.ขณะผสมต้องสวมถุงมือยางและหน้ากากเพื่อป้องกันมิให้สารเข้มข้นถูกผิวหนังและกระเด็นเข้าตา การผสมให้ใช้ไม้กวนขณะพ่นสารต้องอยู่เหนือลมเสมอ และการสวมถุงมือยางและหน้ากากต้องล้างมือและหน้าให้สะอาดด้วยสบู่และน้ำ ก่อนกินอาหาร ดื่มน้ำ หรือสูบบุหรี่ หลังจากทำงานเสร็จแล้ว ต้องอาบน้ำ สระผม เปลี่ยนเสื้อผ้าและซักชุดที่สวมใส่ให้สะอาด ภาชนะบรรจุเมื่อใช้หมดแล้วให้กลั้วล้างด้วยน้ำ 3 ครั้ง และรวมเอาน้ำล้างไปใช้ผสมพ่นสาร กำจัดภาชนะโดยทำลายแล้วฝังดิน หรือรวมทิ้งให้ปลอดภัย 3.ระวังอย่าให้เข้าปาก ตา จมูก หรือถูกผิวหนังและเสื้อผ้า 4.การใช้สารกำจัดแมลงซึ่งอยู่ในหมายเลขกลุ่มเดียวกัน ติดต่อกันเป็นเวลานาน อาจก่อให้เกิดความต้านทานของแมลง 5.มีฤกธิ์กัดกร่อนตาขณะผสมหรือพ่นสาร ต้องสวมแว่นตาป้องกันสารเข้าตา 6.เป็นพิษต่อนกให้ใช้ด้วยความระมัดระวังเป็นพิษสูงต่อปลาและสัตว์น้ำอื่นๆต้องระวังการชะล้างลงสู่แหล่งน้ำเป็นพิษต่อผึ้งให้ใช้ด้วยความระมัดระวัง 7.ห้ามเก็บเกี่ยวพริก ภายใน 3 วัน หลังจากพ่นสารครั้งสุดท้าย 8.เป็นผลิตภัณต์ที่ก่อให้เกิดการระบาดเพิ่มของเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล ห้ามใช้ในนาข้าว

ประโยชน์ : ใช้ป้องกันกำจัดเพลี้ยไฟในพริก
วิธีใช้ : ใข้อัตรา 20 มิลลิลิตร ต่อน้ำ 20 ลิตร พ่นให้ทั่วเมื่อพบการระบาดของเพลี้ยไฟในพริก

วิธีเก็บรักษา : ต้องเก็บ อะบาเมกติน ให้มิดชิดในภาชนะเดิมที่ปิดแน่นมีฉลากติดอยู่และไม่ให้ถูกแสงแดด สถานที่เก็บต้องแห้งและเย็น ห่างไกลจากเด็ก อาหาร น้ำดื่ม สัตว์เลี้ยง และเปลวไฟ

คำเตือน : อะบาเมกติน เป็นวัตถุอันตรายที่มีพิษ ต้องใช้ด้วยความระมัดระวังเพื่อป้องกันมิให้อันตรายต่อผู้ใช้และสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ผู้ใช้ต้องปฏิบัติดังนี้ 1.ห้ามดื่มน้ำ กินอาหารหรือสูบบุหรี่ในขณะปฏิบัติงาน และห้ามนำสัตว์เข้าไปในบริเวณที่พ่นสารอย่างน้อย 24 ชั่วโมง ห้ามเทสารที่เหลือหรือล้างภาชนะบรรจุอุปกรณ์ เครื่องพ่นสารลงในแม่น้ำลำคลอง หรือบริเวณใกล้เคียง เมื่อใช้สารฯหมดแล้ว ห้ามใช้ไฟเผาภาชนะบรรจุหรือนำกลับไปใช้อีก ห้ามเด็กและผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปในบริเวณที่กำลังพ่นสาร 2.ขณะผสมต้องสวมถุงมือยางและหน้ากากเพื่อป้องกันมิให้สารเข้มข้นถูกผิวหนังและกระเด็นเข้าตา การผสมให้ใช้ไม้กวนขณะพ่นสารต้องอยู่เหนือลมเสมอ และการสวมถุงมือยางและหน้ากากต้องล้างมือและหน้าให้สะอาดด้วยสบู่และน้ำ ก่อนกินอาหาร ดื่มน้ำ หรือสูบบุหรี่ หลังจากทำงานเสร็จแล้ว ต้องอาบน้ำ สระผม เปลี่ยนเสื้อผ้าและซักชุดที่สวมใส่ให้สะอาด ภาชนะบรรจุเมื่อใช้หมดแล้วให้กลั้วล้างด้วยน้ำ 3 ครั้ง และรวมเอาน้ำล้างไปใช้ผสมพ่นสาร กำจัดภาชนะโดยทำลายแล้วฝังดิน หรือรวมทิ้งให้ปลอดภัย 3.ระวังอย่าให้เข้าปาก ตา จมูก หรือถูกผิวหนังและเสื้อผ้า 4.การใช้สารกำจัดแมลงซึ่งอยู่ในหมายเลขกลุ่มเดียวกัน ติดต่อกันเป็นเวลานาน อาจก่อให้เกิดความต้านทานของแมลง 5.มีฤกธิ์กัดกร่อนตาขณะผสมหรือพ่นสาร ต้องสวมแว่นตาป้องกันสารเข้าตา 6.เป็นพิษต่อนกให้ใช้ด้วยความระมัดระวังเป็นพิษสูงต่อปลาและสัตว์น้ำอื่นๆต้องระวังการชะล้างลงสู่แหล่งน้ำเป็นพิษต่อผึ้งให้ใช้ด้วยความระมัดระวัง 7.ห้ามเก็บเกี่ยวพริก ภายใน 3 วัน หลังจากพ่นสารครั้งสุดท้าย 8.เป็นผลิตภัณต์ที่ก่อให้เกิดการระบาดเพิ่มของเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล ห้ามใช้ในนาข้าว

ประโยชน์: ใช้ป้องกันและกำจัดด้วงเต่าแตงแดงในแตงกวา

วิธีใช้: ใช้อัตรา 2 กรัม ต่อหลุมปลูก รองก้นหลุมแตงกวาเพื่อป้องกันกำจัดด้วงเต่าแตงแดงในแตงกวา




ชื่อสามัญ: ไดโนทีฟูแรน (dinotefuran)

กลุ่มสารเคมี: Neonicotinoid

ประโยชน์: ใช้ในการป้องกันกำจัดด้วงเต่าแดงในแตงกวา

วิธีใช้: เชฟวิน 20 กรัม ผสมน้ำ 20 ลิตร พ่นเมื่อพบการระบาดของด้วงเต่าแตงแดงในแตงกวา สำหรับแตงกวาอายุน้อยกว่า 30 วัน อัตราการใช้น้ำ 40 ลิตร ต่อไร่ ส่วนแตงกวาอายุมากกว่า 30 วัน อัตราการใช้น้ำ 80 ลิตร ต่อไร่

สารจับใบ โอตอล

ผลิตภัณฑ์นี้ไม่จัดเป็นปุ๋ยตามกฎหมายว่าด้วยปุ๋ยและวัตถุอันตราย ตามกฎหมายว่าด้วยวัตถุอันตรายทางการเกษตรหรือสารป้องกันกำจัดศัตรูพืช

สารสำคัญ
เกลือบริสุทธิ์ 0.875 กรัม/ลิตร
แท็กซ่าฟ่อน N70 0.025 กรัม/ลิตร
โซเดียมเบนโซเอท 0.001 กรัม/ลิตร

วิธีการใช้
ชนิดของสารเคมี โอตอล ผสมน้ำ 20 ลิตร
ยาฆ่าแมลง 15ซีซี.-30ซีซี. (1-2ช้อนแกง)
ยากำจัดวัชพืช 30ซีซี. (2ช้อนแกง)
ยากำจัดโรครา 15ซีซี.-30ซีซี. (1-2ช้อนแกง)
ปุ๋ยเกร็ด ปุ๋ยน้ำ ฮอร์โมน 30ซีซี. (2ช้อนแกง)

วิธีเก็บรักษา
ต้องเก็บผลิตภัณฑ์ในภาชนะเดิมที่ปิดแน่น มีฉลากติดอยู่ และไม่ให้ถูกแสงแดด สถานที่เก็บต้องแห้งและเย็น ห่างไกลจากเด็ก อาหาร น้ำดื่ม สัตว์เลี้ยงและเปลวไฟ

คุณประโยชน์
-ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการยึดเกาะ
-ช่วยลดแรงตึงผิวของละอองที่ฉีดพ่น
-ทำให้แผ่กระจายกว้างและเปียกสม่ำเสมอ

วิธีแก้พิษเบื้องต้น
ควรล้างออกด้วยน้ำสะอาดทันที

อาการเกิดพิษ
ถ้าถูกผิวหนังหรือเข้าตา จะทำให้เกิดอาการระคายเคือง มีผดผื่น

คำเตือน
1.ขณะผสมต้องสวมถุงมือยางและสวมหน้ากาก เพื่อป้องกันมิให้สารถูกผิวหนัง และกระเด็นเข้าตา
2.ขณะพ่นสารต้องอยู่เหนือลมเสมอ และควรสวมถุงมือยางและหน้ากากเสมอ
3.หลังจากทำงานเสร็จแล้วต้องล้างมือ ล้างหน้าให้สะอาด


ซื้อ 1 ลัง มี 12ขวด ราคาขวดละ 45บาท เป็นเงิน 540บาท


** ติดต่อร้านที่เบอร์ 081-9111285**

สารจับใบ โอตอล

ผลิตภัณฑ์นี้ไม่จัดเป็นปุ๋ยตามกฎหมายว่าด้วยปุ๋ยและวัตถุอันตราย ตามกฎหมายว่าด้วยวัตถุอันตรายทางการเกษตรหรือสารป้องกันกำจัดศัตรูพืช

สารสำคัญ
เกลือบริสุทธิ์ 0.875 กรัม/ลิตร
แท็กซ่าฟ่อน N70 0.025 กรัม/ลิตร
โซเดียมเบนโซเอท 0.001 กรัม/ลิตร

วิธีการใช้
ชนิดของสารเคมี โอตอล ผสมน้ำ 20 ลิตร
ยาฆ่าแมลง 15ซีซี.-30ซีซี. (1-2ช้อนแกง)
ยากำจัดวัชพืช 30ซีซี. (2ช้อนแกง)
ยากำจัดโรครา 15ซีซี.-30ซีซี. (1-2ช้อนแกง)
ปุ๋ยเกร็ด ปุ๋ยน้ำ ฮอร์โมน 30ซีซี. (2ช้อนแกง)

วิธีเก็บรักษา
ต้องเก็บผลิตภัณฑ์ในภาชนะเดิมที่ปิดแน่น มีฉลากติดอยู่ และไม่ให้ถูกแสงแดด สถานที่เก็บต้องแห้งและเย็น ห่างไกลจากเด็ก อาหาร น้ำดื่ม สัตว์เลี้ยงและเปลวไฟ

คุณประโยชน์
-ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการยึดเกาะ
-ช่วยลดแรงตึงผิวของละอองที่ฉีดพ่น
-ทำให้แผ่กระจายกว้างและเปียกสม่ำเสมอ

วิธีแก้พิษเบื้องต้น
ควรล้างออกด้วยน้ำสะอาดทันที

อาการเกิดพิษ
ถ้าถูกผิวหนังหรือเข้าตา จะทำให้เกิดอาการระคายเคือง มีผดผื่น

คำเตือน
1.ขณะผสมต้องสวมถุงมือยางและสวมหน้ากาก เพื่อป้องกันมิให้สารถูกผิวหนัง และกระเด็นเข้าตา
2.ขณะพ่นสารต้องอยู่เหนือลมเสมอ และควรสวมถุงมือยางและหน้ากากเสมอ
3.หลังจากทำงานเสร็จแล้วต้องล้างมือ ล้างหน้าให้สะอาด



ซื้อ 1 ลัง มี 4แกลลอน ราคาแกลลอนละ 120บาท เป็นเงิน 480บาท


** ติดต่อร้านที่เบอร์ 081-9111285**

ประโยชน์: ใช้ป้องกันกำจัดหนอนกอข้าวในข้าว

วิธีใช้:
- ใช้ในอัตรา 4 ก.ก./ ไร่ หว่านให้ทั่ว เมื่อเริ่มพบการระบาดของหนอนกอข้าวในข้าว

- ใช้ในอัตรา 6 ก.ก./ ไร่ หว่านให้ทั่ว เมื่อเริ่มพบการระบาดของหนอนกออ้อย

ประโยชน์: ใช้ป้องกันและกำจัดเพลี้ยไฟ

อัตราการใช้: 20 มิลลิลิตร ผสมน้ำ 20 ลิตร พ่นให้ทั่วพ่นเมื่อพบการระบาดของเพลี้ยไฟ

ชื่อสามัญ: ฟิโพรนิล (fipronil)


กลุ่มสารเคมี: Fiprole


** สามารถใช้ กำจัดปลวก มด หนอน แมลง อื่นๆ ได้ด้วย ***

ฟอร์แทรน (เมทาไรเซียม แอนนิโซเพลีย Metarhizium Anisopliae) 100กรัม

ประโยชน์และวิธีใช้: ใช้ป้องกันกำจัดเพลี้ยจั๊กจั่นฝ้ายในมะเขือเปราะ


วิธีใช้: ใช้อัตรา 200กรัม ต่อน้ำ20ลิตร พ่นเมื่อพบการระบาดของเพลี้ย (อัตราการใช้น้ำ 80ลิตร/ ไร่) พยายามพ่นให้ถูกตัวแมลงให้มากที่สุด และพ่นช่วงเวลาเย็น หลีกเลี่ยงแสงแดด ควรพ่นในขณะที่แปลงมีความชื้นสูง ถ้าสภาพแปลงแห้งมาก ให้พ่นน้ำก่อนพ่นเชื้อทุกครั้ง

วิธีเก็บรักษา: เก็บในภาชนะปิดแน่น มีฉลากปิดอยู่ และไม่ให้ถูกแสงแดด เก็บในที่แห้งและเย็นหรืออุณหภูมิห้อง ห่างไกลจากเด็ก อาหาร น้ำดื่ม สัตว์เลี่ยง และเปลวไฟ


คำเตือน: ฟอร์แทรน เป็นเชื้อจุลินทรีย์ เพื่อให้มีประสิทธิภาพในการใช้ และปลอดภัยต่อผู้ใช้ และสภาพแวดล้อม ผู้ใช้ควรปฎิบัติ ดังนี้
1. ห้ามดื่มน้ำ กินอาหาร หรือสูบบุหรี่ในขณะปฎิบัติงาน
2. ห้ามเทเชื้อที่เหลือ หรือล้างภาชนะบรรจุ อุปกรณ์ เครื่องพ่นสารลงในแม่น้ำ ลำคลอง หรือบริเวณใกล้เคียง เมื่อใช้เชื้อหมดแล้ว
3.ห้ามใช้ไฟเผาภาชนะบรรจุ หรือนำกลับมาใช้อีก
4.ห้ามเด็ก และผู้ไม่เกี่ยวข้องเข้าาภายในบริเวณพ่นเชื้อ
5.ขณะผสม ต้องสวมถุงมือและหน้ากาก ใช้ไม้กวน
6.ขณะพ่นเชื้อ ต้องอยู่เหนือลมเสมอ
7.ต้องล้างมือ และล้างหน้าให้สะอาดด้วยน้ำ ก่อนกินอาหาร ดื่มน้ำ หรือสูบบุหรี่
8.หลังจากทำงานเสร็จแล้ว ต้องอาบน้ำ สระผม เปลี่ยนเสื้อผ้า และซักชุดที่สวมทำงานให้สะอาด ภาชนะเมื่อใช้หมดแล้ว ให้กลั้วล้างด้วยน้ำเปล่า 3 ครั้ง กำจัดภาชนะโดยการฝังดิน
9.ระวัง อย่าให้เข้า ปาก ตา จมูก ผิวหนัง หรือถูกเสื้อผ้า
10. สารนี้เป็นอันตรายต่อหนอนไหม ห้ามพ่นใกล้เคียงบริเวณที่เลี้ยงไหม และแปลงหม่อน


อาการเกิดพิษ: ยังไม่มีรายงานเกี่ยวกับการเกิดพิษของเชื้อนี้

การแก้พิษเบื้องต้น:
1.การเกิดพิษเนื่องจากการสูดดม รีบนำผู้ป่วยออกจากบริเวณที่ใช้ ให้พักผ่อนในที่ที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก หากอาการไม่ทุเลาให้ไปพบแพทย์
2. หากเข้าตา ให้รีบล้างออกด้วยน้ำสะอาดจำนวนมากนาน 15 นาที หากอาการไม่ทุเลา ให้ไปพบแพทย์
3.ถ้าถูกผิวหนังให้ล้างออกด้วยสบู่และน้ำนานๆ จนสะอาด ถ้าเปือนเสื้อผ้า ให้รีบอาบน้ำ และเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่ทันที
4.ถ้าเข้าปาก ให้รีบบ้วนน้ำล้างปาก ห้ามกลืนกิน ห้ามทำให้อาเจียน และห้ามให้น้ำ เครื่องดื่ม หรืออาหารใดๆ ทั้งสิ้น รีบนำผู้ป่วยส่งแพทย์ทันที พร้อมภาชนะบรรจุและฉลาก

คำแนะนำสำหรับแพทย์: รักษาตามอาการ

คัทอ็อฟ (บูวาเลีย บาสเซียน่า Beauveria บัสเซียน่า) 100กรัม

ประโยชน์และวิธีใช้: ใช้ป้องกันกำจัดแมลงหวี่ขาวยาสูบในมะเขือเทศ


วิธีใช้: ใช้อัตรา 60-80กรัม ต่อน้ำ20ลิตร พ่นเมื่อพบการระบาดของแมลงหวี่ขาวยาสูบในมะเขือเทศ (อัตราการใช้ 80ลิตร/ไร่) พยายามพ่นให้ถูกตัวแมลงให้มากที่สุด และพ่นช่วงเวลาเย็น หลีกเลี่ยงแสงแดด ควรพ่นในขณะที่แปลงมีความชื้นสูง ถ้าสภาพแปลงแห้งมาก ให้พ่นน้ำก่อนพ่นเชื้อทุกครั้ง

วิธีเก็บรักษา: เก็บในภาชนะปิดแน่น มีฉลากปิดอยู่ และไม่ให้ถูกแสงแดด เก็บในที่แห้งและเย็นหรืออุณหภูมิห้อง ห่างไกลจากเด็ก อาหาร น้ำดื่ม สัตว์เลี่ยง และเปลวไฟ


คำเตือน: ฟอร์แทรน เป็นเชื้อจุลินทรีย์ เพื่อให้มีประสิทธิภาพในการใช้ และปลอดภัยต่อผู้ใช้ และสภาพแวดล้อม ผู้ใช้ควรปฎิบัติ ดังนี้
1. ห้ามดื่มน้ำ กินอาหาร หรือสูบบุหรี่ในขณะปฎิบัติงาน
2. ห้ามเทเชื้อที่เหลือ หรือล้างภาชนะบรรจุ อุปกรณ์ เครื่องพ่นสารลงในแม่น้ำ ลำคลอง หรือบริเวณใกล้เคียง เมื่อใช้เชื้อหมดแล้ว
3.ห้ามใช้ไฟเผาภาชนะบรรจุ หรือนำกลับมาใช้อีก
4.ห้ามเด็ก และผู้ไม่เกี่ยวข้องเข้าาภายในบริเวณพ่นเชื้อ
5.ขณะผสม ต้องสวมถุงมือและหน้ากาก ใช้ไม้กวน
6.ขณะพ่นเชื้อ ต้องอยู่เหนือลมเสมอ
7.ต้องล้างมือ และล้างหน้าให้สะอาดด้วยน้ำ ก่อนกินอาหาร ดื่มน้ำ หรือสูบบุหรี่
8.หลังจากทำงานเสร็จแล้ว ต้องอาบน้ำ สระผม เปลี่ยนเสื้อผ้า และซักชุดที่สวมทำงานให้สะอาด ภาชนะเมื่อใช้หมดแล้ว ให้กลั้วล้างด้วยน้ำเปล่า 3 ครั้ง กำจัดภาชนะโดยการฝังดิน
9.ระวัง อย่าให้เข้า ปาก ตา จมูก ผิวหนัง หรือถูกเสื้อผ้า
10. สารนี้เป็นอันตรายต่อหนอนไหม ห้ามพ่นใกล้เคียงบริเวณที่เลี้ยงไหม และแปลงหม่อน


อาการเกิดพิษ: ยังไม่มีรายงานเกี่ยวกับการเกิดพิษของเชื้อนี้

การแก้พิษเบื้องต้น:
1.การเกิดพิษเนื่องจากการสูดดม รีบนำผู้ป่วยออกจากบริเวณที่ใช้ ให้พักผ่อนในที่ที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก หากอาการไม่ทุเลาให้ไปพบแพทย์
2. หากเข้าตา ให้รีบล้างออกด้วยน้ำสะอาดจำนวนมากนาน 15 นาที หากอาการไม่ทุเลา ให้ไปพบแพทย์
3.ถ้าถูกผิวหนังให้ล้างออกด้วยสบู่และน้ำนานๆ จนสะอาด ถ้าเปือนเสื้อผ้า ให้รีบอาบน้ำ และเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่ทันที
4.ถ้าเข้าปาก ให้รีบบ้วนน้ำล้างปาก ห้ามกลืนกิน ห้ามทำให้อาเจียน และห้ามให้น้ำ เครื่องดื่ม หรืออาหารใดๆ ทั้งสิ้น รีบนำผู้ป่วยส่งแพทย์ทันที พร้อมภาชนะบรรจุและฉลาก

คำแนะนำสำหรับแพทย์: รักษาตามอาการ

ไบโอแทค (บาซิลลัส ธูริงเยนสิส Bacillus thuringiensis var.kurstaki) 100กรัม

ประโยชน์และวิธีใช้: ใช้ป้องกันกำจัดหนอนใยผักในคะน้า


วิธีใช้: ใช้อัตรา 80กรัม ต่อน้ำ20ลิตร พ่นเมื่อพบการระบาดของหนอนใยผักในคะน้า ควรพ่นในขณะที่หนอนยังอยู่ในระยะตัวอ่อนวัย 1-2 พยายามพ่นให้ถูกตัวแมลงให้-มากที่สุด และพ่นช่วงเวลาเย็น หลีกเลี่ยงแสงแดด ควร
พ่นในขณะที่แปลงมีความชื้นสูง ถ้าสภาพแปลงแห้งมาก ให้พ่นน้ำก่อนพ่นเชื้อทุกครั้ง

วิธีเก็บรักษา: เก็บในภาชนะปิดแน่น มีฉลากปิดอยู่ และไม่ให้ถูกแสงแดด เก็บในที่แห้งและเย็นหรืออุณหภูมิห้อง ห่างไกลจากเด็ก อาหาร น้ำดื่ม สัตว์เลี่ยง และเปลวไฟ


คำเตือน: ฟอร์แทรน เป็นเชื้อจุลินทรีย์ เพื่อให้มีประสิทธิภาพในการใช้ และปลอดภัยต่อผู้ใช้ และสภาพแวดล้อม ผู้ใช้ควรปฎิบัติ ดังนี้
1. ห้ามดื่มน้ำ กินอาหาร หรือสูบบุหรี่ในขณะปฎิบัติงาน
2. ห้ามเทเชื้อที่เหลือ หรือล้างภาชนะบรรจุ อุปกรณ์ เครื่องพ่นสารลงในแม่น้ำ ลำคลอง หรือบริเวณใกล้เคียง เมื่อใช้เชื้อหมดแล้ว
3.ห้ามใช้ไฟเผาภาชนะบรรจุ หรือนำกลับมาใช้อีก
4.ห้ามเด็ก และผู้ไม่เกี่ยวข้องเข้าาภายในบริเวณพ่นเชื้อ
5.ขณะผสม ต้องสวมถุงมือและหน้ากาก ใช้ไม้กวน
6.ขณะพ่นเชื้อ ต้องอยู่เหนือลมเสมอ
7.ต้องล้างมือ และล้างหน้าให้สะอาดด้วยน้ำ ก่อนกินอาหาร ดื่มน้ำ หรือสูบบุหรี่
8.หลังจากทำงานเสร็จแล้ว ต้องอาบน้ำ สระผม เปลี่ยนเสื้อผ้า และซักชุดที่สวมทำงานให้สะอาด ภาชนะเมื่อใช้หมดแล้ว ให้กลั้วล้างด้วยน้ำเปล่า 3 ครั้ง กำจัดภาชนะโดยการฝังดิน
9.ระวัง อย่าให้เข้า ปาก ตา จมูก ผิวหนัง หรือถูกเสื้อผ้า
10. สารนี้เป็นอันตรายต่อหนอนไหม ห้ามพ่นใกล้เคียงบริเวณที่เลี้ยงไหม และแปลงหม่อน


อาการเกิดพิษ: ยังไม่มีรายงานเกี่ยวกับการเกิดพิษของเชื้อนี้

การแก้พิษเบื้องต้น:
1.การเกิดพิษเนื่องจากการสูดดม รีบนำผู้ป่วยออกจากบริเวณที่ใช้ ให้พักผ่อนในที่ที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก หากอาการไม่ทุเลาให้ไปพบแพทย์
2. หากเข้าตา ให้รีบล้างออกด้วยน้ำสะอาดจำนวนมากนาน 15 นาที หากอาการไม่ทุเลา ให้ไปพบแพทย์
3.ถ้าถูกผิวหนังให้ล้างออกด้วยสบู่และน้ำนานๆ จนสะอาด ถ้าเปือนเสื้อผ้า ให้รีบอาบน้ำ และเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่ทันที
4.ถ้าเข้าปาก ให้รีบบ้วนน้ำล้างปาก ห้ามกลืนกิน ห้ามทำให้อาเจียน และห้ามให้น้ำ เครื่องดื่ม หรืออาหารใดๆ ทั้งสิ้น รีบนำผู้ป่วยส่งแพทย์ทันที พร้อมภาชนะบรรจุและฉลาก

คำแนะนำสำหรับแพทย์: รักษาตามอาการ

ยาจับใบชนิดพิเศษฟิกเซอร์ ใช้ผสมกับยากำจัดศัตรูพืชได้ทุกชนิด ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของตัวยาที่ใช้


ฟิกเซอร์ ช่วยทั้งแผ่ ทั้งจับ และกระจายทั่วต้นพืช

ประโยชน์: ยาแผ่กระจายจับใบ (spreader-sticker) สูตรพิเศษ ผลิตขึ้นเพื่อช่วยเพิ่มช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของยาปราบศัตรูพืชชนิดต่างๆ เช่น ยาป้องกันโรคพืช ยาฆ่าแมลง ยาปราบวัชพืช ตลอดจนปุ๋ยเกร็ด ปุ๋ยน้ำทางใบชนิดต่างๆ

นอกจากนี้แล้ว ฟิกเกอร์ ยังสามารถทำความสะอาด ถังฉีดพ่นยาได้ดีอีกด้วย

คุณสมบัติ:
- ช่วยลดการสูญเสีย เนื่องจากการปลิวของละอองยา และจากการรดน้ำหรือฝน
- ช่วยการดูดซึมของตัวยาเข้าสู่ต้นพืช และเข้าสู่ผนังลำตัวของแมลง และหนอนได้เร็วยิ่งขึ้น
- ช่วยยืดช่วงเวลาการฉีดพ่นยาให้ยาวนานขึ้น
- ช่วยทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายต่างๆ ในการฉีดพ่นยา และทำให้การปราบศัตรูพืชได้ผลยิ่งขึ้น
- สามารถนำมาใช้กับพืชปลูกต่างๆ เช่น นาข้าว พืชผัก พืชสวน พืชไร่ ไม้ผล และอื่นๆอีกมากมาย โดยเฉพาะพืชใบมันนวล และใบคาย

อัตราการใช้:

- สำหรับใช้ผสมกับยาฆ่าแมลง และยาป้องกันโรคพืช: ใช้ในอัตรา 10ซีซี ต่อน้ำยาที่ผสมแล้ว 20ลิตร (หรือประมาณ 1 ช้อนแกง ต่อน้ำ 1 ปี๊บน้ำมันก๊าด)

- สำหรับใช้กับยากำจัดวัชพืช: ใช้ในอัตรา 10-20ซีซี ต่อน้ำยาที่ผสมแล้ว 20ลิตร (หรือประมาณ 1-2 ช้อนแกง ต่อน้ำ 1 ปี๊บน้ำมันก๊าด)



วิธีการใช้:
-ควรผสมยาที่ใช้ป้องกันกำจัดศัตรูพืชกับน้ำสะอาดให้เรียบร้อยเสียก่อน แล้วจึงเทยาจับใบ ฟิกเซอร์ ลงไปในถังที่ผสมยาแล้ว
- ต้องคนตัวยาให้ทั่วเสียก่อนจึงฉีดพ่น จะทำให้ยามีประสิทธิภาพดีขึ้น

ประโยชน์: ใช้กำจัดหนอน แมลง เพลี้ยไฟ เป็นต้น

อัตราการใช้: พอสน์ 50 ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร พ่นให้ทั่ว เมื่อพบการระบาดของเพลี้ยไฟ


วิธีเก็บรักษา: ต้องเก็บพอสน์ในภาชนะเดิมที่ปิดแน่น มีฉลากติดอยู่ และไม่ให้ถูกแสงแดด สถานที่เก็บต้องแห้งและเย็น ห่างไกลจากเด็ก อาหาร น้ำดื่ม สัตว์เลี้ยง และเปลวไฟ


คำเตือน: พอสน์ เป็นวัตถุอันตราย ที่มีพิษร้ายแรงต้องใช้ด้วยความระมัดระวัง เพื่อป้องกันไม่ให้เป็นอันตรายต่อผู้ใช้และสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ผู้ใช้ต้องปฎิบัติ ดังนี้
- ห้าม ดื่มน้ำ กินอาหาร หรือสูบบุหรี่ ในขณะปฎิบัติงาน
- ห้าม คน หรือ นำสัตว์ เข้าไปยังบริเวณที่ฉีดพ่นอย่างน้อย 24 ชั่วโมง
- ห้าม เทสารที่เหลือ หรือล้างภาชนะ อุปกรณ์ เครื่องพ่นสารลงในแม่น้ำ ลำคลอง หรือบริเวณใกล้เคียง
- ห้าม ใช้ไฟเผาภาชนะบรรจุ หรือนำกลับมาใช้อีก การผสมให้ใช้ไม้กวน
- ขณะพ่นสารต้อง สวมถุงมือ หน้ากาก และเสื้อแขนยาว เพื่อป้องกันสารเข้าสู่ร่างกาย

ประโยชน์: ใช้กำจัดหนอน แมลง เพลี้ยไฟ เป็นต้น

อัตราการใช้: พอสน์ 50 ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร พ่นให้ทั่ว เมื่อพบการระบาดของเพลี้ยไฟ


วิธีเก็บรักษา: ต้องเก็บพอสน์ในภาชนะเดิมที่ปิดแน่น มีฉลากติดอยู่ และไม่ให้ถูกแสงแดด สถานที่เก็บต้องแห้งและเย็น ห่างไกลจากเด็ก อาหาร น้ำดื่ม สัตว์เลี้ยง และเปลวไฟ


คำเตือน: พอสน์ เป็นวัตถุอันตราย ที่มีพิษร้ายแรงต้องใช้ด้วยความระมัดระวัง เพื่อป้องกันไม่ให้เป็นอันตรายต่อผู้ใช้และสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ผู้ใช้ต้องปฎิบัติ ดังนี้
- ห้าม ดื่มน้ำ กินอาหาร หรือสูบบุหรี่ ในขณะปฎิบัติงาน
- ห้าม คน หรือ นำสัตว์ เข้าไปยังบริเวณที่ฉีดพ่นอย่างน้อย 24 ชั่วโมง
- ห้าม เทสารที่เหลือ หรือล้างภาชนะ อุปกรณ์ เครื่องพ่นสารลงในแม่น้ำ ลำคลอง หรือบริเวณใกล้เคียง
- ห้าม ใช้ไฟเผาภาชนะบรรจุ หรือนำกลับมาใช้อีก การผสมให้ใช้ไม้กวน
- ขณะพ่นสารต้อง สวมถุงมือ หน้ากาก และเสื้อแขนยาว เพื่อป้องกันสารเข้าสู่ร่างกาย

สารสกัดสมุนไพร 2 in 1 เทคโนโลยีชีวภาพ ป้องกัน กำจัด แมลงศัตรูพืช และเชื้อรา ปราศจากสารเคมี และอันตราย

สารสกัดสมุนไพร 2 in 1 เป็นสารสกัดจากสมุนไพรธรรมชาติ ออกฤทธิ์ทำลายระบบย่อยอาหาร ยับยั้งการกินอาหาร การลอกคราบ การเจริญเติบโตทั้งระยะตัวอ่อน ดักแด้ และโตเต็มวัย ทำให้แมลงศัตรูพืชไม่สามารถกินอาหาร และอาซศัยอยู่บริเวณที่ใช้สารสกัดสมุนไพร 2in1

วิธีใช้: ใช้ฉีดพ่นหรือผสมน้ำราดบริเวณโคนต้น ใบ และลำต้น ติดต่อกัน3วัน ในครั้งแรก เพือขับไล่แมลงศัตรูพืช หลังจากนั้นใช้เพื่อป้องกันตามชนิดของพืช

คุณสมบัติ: ใช้ขับไล่ และป้องกัน แมลง หนอน เพลี้ย ด้วง ไร ราน้ำค้าง ราสนิม ราแป้ง เชื้อแบคทีเรีย


อัตราการใช้:

1)ไม้ดอก
- ใช้ขับไล่ : 100ซีซี/ น้ำ 10 ลิตร ฉีดพ่นให้ทั่ว 3 วันติดต่อกัน
- ใช้ป้องกัน : 50ซีซี/ น้ำ 10 ลิตร ฉีดพ่นให้ทั่วทุก 3-5 วัน


2)ไม้ใบ
- ใช้ขับไล่ : 100ซีซี/ น้ำ 10 ลิตร ฉีดพ่นให้ทั่ว 3 วันติดต่อกัน
- ใช้ป้องกัน : 50ซีซี/ น้ำ 10 ลิตร ฉีดพ่นให้ทั่วทุก 3-5 วัน


3)กล้วยไม้
- ใช้ขับไล่ : 100ซีซี/ น้ำ 10 ลิตร ฉีดพ่นให้ทั่ว 3 วันติดต่อกัน
- ใช้ป้องกัน : 50ซีซี/ น้ำ 10 ลิตร ฉีดพ่นให้ทั่วทุก 5-7 วัน

ในครั้งแรก ควรใช้ วันละ 1 ครั้ง 3 วันติดต่อกัน

สารสกัดสมุนไพร 2 in 1 เทคโนโลยีชีวภาพ ป้องกัน กำจัด แมลงศัตรูพืช และเชื้อรา ปราศจากสารเคมี และอันตราย

สารสกัดสมุนไพร 2 in 1 เป็นสารสกัดจากสมุนไพรธรรมชาติ ออกฤทธิ์ทำลายระบบย่อยอาหาร ยับยั้งการกินอาหาร การลอกคราบ การเจริญเติบโตทั้งระยะตัวอ่อน ดักแด้ และโตเต็มวัย ทำให้แมลงศัตรูพืชไม่สามารถกินอาหาร และอาซศัยอยู่บริเวณที่ใช้สารสกัดสมุนไพร 2in1

วิธีใช้: ใช้ฉีดพ่นหรือผสมน้ำราดบริเวณโคนต้น ใบ และลำต้น ติดต่อกัน3วัน ในครั้งแรก เพือขับไล่แมลงศัตรูพืช หลังจากนั้นใช้เพื่อป้องกันตามชนิดของพืช

คุณสมบัติ: ใช้ขับไล่ และป้องกัน แมลง หนอน เพลี้ย ด้วง ไร ราน้ำค้าง ราสนิม ราแป้ง เชื้อแบคทีเรีย


อัตราการใช้:

1)ไม้ดอก
- ใช้ขับไล่ : 100ซีซี/ น้ำ 10 ลิตร ฉีดพ่นให้ทั่ว 3 วันติดต่อกัน
- ใช้ป้องกัน : 50ซีซี/ น้ำ 10 ลิตร ฉีดพ่นให้ทั่วทุก 3-5 วัน


2)ไม้ใบ
- ใช้ขับไล่ : 100ซีซี/ น้ำ 10 ลิตร ฉีดพ่นให้ทั่ว 3 วันติดต่อกัน
- ใช้ป้องกัน : 50ซีซี/ น้ำ 10 ลิตร ฉีดพ่นให้ทั่วทุก 3-5 วัน


3)กล้วยไม้
- ใช้ขับไล่ : 100ซีซี/ น้ำ 10 ลิตร ฉีดพ่นให้ทั่ว 3 วันติดต่อกัน
- ใช้ป้องกัน : 50ซีซี/ น้ำ 10 ลิตร ฉีดพ่นให้ทั่วทุก 5-7 วัน

ในครั้งแรก ควรใช้ วันละ 1 ครั้ง 3 วันติดต่อกัน

ประโยชน์: สารกำจัดแมลง ใช้ในการป้องกันกำจัดเพลี้ยไฟฝ้าย

วิธีใช้: บีบีเม็คติน 40มล. ผสมน้ำ 20ลิตร พ่นให้ทั่วเมื่อพบการระบาดของเพลี้ยไฟฝ้าย



กลุ่มสารเคมี: avermectin

สารสำคัญ: abamectin 1.8% W/V EC

สารจับใบ บัดดี้ พลัส (spreader & sticker) สูตรพิเศษ ผลิตขึ้นเพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของยาปราบศัตรูพืชชนิดต่างๆ เช่น ยาป้องกันกำจัดโรคพืช ยาฆ่าแมลง ยาปราบวัชพืช ตลอดจนปุ๋ยเกล็ด ปุ๋ยน้ำ อาหารเสริมทุกชนิด ฉีดพ่นทางใบชนิดต่างๆ
นอกจากนี้แล้ว บัดดี้ พลัส ยังสามารถทำความสะอาดถังฉีดพ่นยาได้อีกด้วย


ประโยชน์:เป็นสารแผ่กระจาย จับใบ ชนิดเข้มข้น ประกอบด้วยสารเปียกใบสารจับเกาะ และสารแผ่กระจายบนผิวในพืช ช่วยเสริมและเพิ่มประสิทธิภาพสารกำจัดแมลง สารป้องกันกำจัดโรคพืช สารกำจัดวัชพืช ปุ๋ย ฮอร์โมน และธาตุอาหารเสริมทางใบ ทำให้น้ำยาแผ่กระจายได้ทั่วใบ ลดการสูญเสียน้ำยาขณะฉีดพ่นทำให้ประหยัด และได้ผลดีเยี่ยม


วิธีใช้: ใช้บัดดี้ พลัสเป็นตัวสุดท้าย หลังจากที่ผสมสารกำจัดศัตรูพืช หรือ ปุ๋ย ทางใบ รวมตัวกับน้ำดีแล้ว ตามอัตรา ดังนี้
1) สารกำจัดแมลง: 10 ซีซี ต่อน้ำยาที่ผสมแล้ว 20ลิตร
2) สารกำจัดวัชพืช: 10-20 ซีซี ต่อน้ำยาที่ผสมแล้ว 20ลิตร
3) ปุ๋ยเกล็ด, ปุ๋ยน้ำ, ฮอร์โมนพืช: 10 ซีซี ต่อน้ำยาที่ผสมแล้ว 20ลิตร

4) สารป้องกันกำจัดโรคพืช: 10 ซีซี ต่อน้ำยาที่ผสมแล้ว 20ลิตร

ประโยชน์: สารกำจัดแมลง ใช้ในการป้องกันกำจัดเพลี้ยไฟฝ้าย

วิธีใช้: บีบีเม็คติน 40มล. ผสมน้ำ 20ลิตร พ่นให้ทั่วเมื่อพบการระบาดของเพลี้ยไฟฝ้าย



กลุ่มสารเคมี: avermectin

สารสำคัญ: abamectin 1.8% W/V EC

ประโยชน์: ใช้ป้องกันกำจัดหนอนกอข้าวในข้าว

วิธีใช้: ใช้ในอัตรา 4 ก.ก./ ไร่ หว่านให้ทั่ว เมื่อเริ่มพบการระบาดของหนอนกอข้าวในข้าว

หัวเชื้อจุลินทรีย์ ทริปโตฝาจ ประกอบไปด้วยเชื้อรา บูวาเรีย บาสเซียน่า และเมธาไรเซี่ยม แอนิโซเฟีย เป็นหัวเชื้อจุลินทรีย์สายพันธุ์ไทย ที่นำมาป้องกันและกำจัดแมลงศัตรูพืช อาทิ เพลี้ยอ่อน เพลี้ยแป้ง เพลี้ยไฟ ไรแดง แลงหวี่ขาว เพลี้ยกระโดด เพลี้ยจักจั่น หนอนกอ หนอนห่อใบ แมลงสิง แมลงหล่า ด้วงหมัดผัก ทั้งช่วงตัวอ่อนและวัยแก่
ขั้นตอนการเข้าทำลาย ของหัวเชื้อจุลินทรีย์ทริปโตฝาจนั้น จะแทรกเข้าไปตามเนื่อเยื่ออ่อนๆ หรือตามของเหลวในตัวเพลี้ย หรือหนอนต่างๆ และเจริญเติบโตออกมาข้างนอกเมื่อมันพร้อมที่จะแพร่สปอร์ สปอร์จะมีสีขาวขุ่น เมื่อแมลงสัมผัสเชื้อ หลังจากสัมผัสเชื้อ 3วัน แลงจะเริ่มป่วยและหยุดทำลายพืช และจะตายภายในระยะเวลา 5-14 วัน


วิธีใช้:
ผสมน้ำยาจับใบ 10-20 ซีซี ลงในน้ำ 20 ลิตร คนน้ำยาให้เข้ากับน้ำ
ใส่หัวเชื้อจุลินทรีย์ทริปโตฝาจ 60กรัม (3ช้อนแกง) ในน้ำ 20 ลิตร ที่เติมน้ำยาจับใบ แล้วคนผสมให้เข้ากัน
นำไปฉีดพ่นในช่วงเย็น ให้เปียกชุ่มโชกทั้งบนใบ ใต้ใบพืช ลำต้น โคนต้น หรือแม้กระทั่งพ่นลงดิน
ระยะเวลาในการฉีดพ่น หากพบแมลงระบาดรุนแรงให้ฉีดพ่น 3วัน/ ครั้ง ติดต่อกัน 2-3 ครั้ง หากระบาดไม่มากให้ฉีดพ่น 5-7 วัน ครั้ง

คำแนะนำเพิ่มเติม:
หากต้องการกำจัดหนอนอย่างมีประสิทธิภาพ ควรใช้ร่วมกับเชื้อบีที
ไม่ควรใช้หัวเชื้อจุลินทรีย์ทริปโตฝาจ ร่วมกับบีเอสพลายแก้ว
ไม่ควรนำหัวเชื้อจุลินทรีย์ทริปโตฝาจฉีดพ่นในใบหม่อนเลี้ยงไหม
ควรฉีดพ่นขณะที่แมลงศัตรูพืชยังระบาดไม่มาก หรือระบาดเล็กน้อย เพื่อตัดวงจรของแมลงศัตรูพืช ไม่ให้ระบาดรุนแรงในอนาคต
ควรฉีดพ่นให้โดนตัวแมลงศัตรูพืชจะเป็นผลดีมากขึ้น

สารจับใบ ดีเทค (spreader & sticker) สูตรพิเศษ ผลิตขึ้นเพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของยาปราบศัตรูพืชชนิดต่างๆ เช่น ยาป้องกันกำจัดโรคพืช ยาฆ่าแมลง ยาปราบวัชพืช ตลอดจนปุ๋ยเกล็ด ปุ๋ยน้ำฉีดพ่นทางใบชนิดต่างๆ
นอกจากนี้แล้ว ดีเทค ยังสามารถทำความสะอาดถังฉีดพ่นยาได้อีกด้วย


ประโยชน์:เป็นสารแผ่กระจาย จับใบ ชนิดเข้มข้น ประกอบด้วยสารเปียกใบสารจับเกาะ และสารแผ่กระจายบนผิวในพืช ช่วยเสริมและเพิ่มประสิทธิภาพสารกำจัดแมลง สารป้องกันกำจัดโรคพืช สารกำจัดวัชพืช ปุ๋ย ฮอร์โมน และธาตุอาหารเสริมทางใบ ทำให้น้ำยาแผ่กระจายได้ทั่วใบ ลดการสูญเสียน้ำยาขณะฉีดพ่นทำให้ประหยัด และได้ผลดีเยี่ยม


วิธีใช้: ใช้ดีเทคเป็นตัวสุดท้าย หลังจากที่ผสมสารกำจัดศัตรูพืช หรือ ปุ๋ย ทางใบ รวมตัวกับน้ำดีแล้ว ตามอัตรา ดังนี้
1) สารกำจัดแมลง: 10 ซีซี ต่อน้ำยาที่ผสมแล้ว 20ลิตร
2) สารกำจัดวัชพืช: 10-20 ซีซี ต่อน้ำยาที่ผสมแล้ว 20ลิตร
3) ปุ๋ยเกล็ด, ปุ๋ยน้ำ, ฮอร์โมนพืช: 10 ซีซี ต่อน้ำยาที่ผสมแล้ว 20ลิตร

4) สารป้องกันกำจัดโรคพืช: 10 ซีซี ต่อน้ำยาที่ผสมแล้ว 20ลิตร

ประโยชน์: ใช้กำจัดหนอน แมลง เพลี้ย เป็นต้น

อัตราการใช้: พอสน์ 100 ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร พ่นเมื่อพบหนอน แมลง

ประโยชน์: สารกำจัดแมลง ใช้ในการป้องกันกำจัดเพลี้ยไฟฝ้าย

วิธีใช้: บีบีเม็คติน 40มล. ผสมน้ำ 20ลิตร พ่นให้ทั่วเมื่อพบการระบาดของเพลี้ยไฟฝ้าย



กลุ่มสารเคมี: avermectin

สารสำคัญ: abamectin 1.8% W/V EC

สารจับใบ ดีเทค (spreader & sticker) สูตรพิเศษ ผลิตขึ้นเพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของยาปราบศัตรูพืชชนิดต่างๆ เช่น ยาป้องกันกำจัดโรคพืช ยาฆ่าแมลง ยาปราบวัชพืช ตลอดจนปุ๋ยเกล็ด ปุ๋ยน้ำฉีดพ่นทางใบชนิดต่างๆ
นอกจากนี้แล้ว ดีเทค ยังสามารถทำความสะอาดถังฉีดพ่นยาได้อีกด้วย


ประโยชน์:เป็นสารแผ่กระจาย จับใบ ชนิดเข้มข้น ประกอบด้วยสารเปียกใบสารจับเกาะ และสารแผ่กระจายบนผิวในพืช ช่วยเสริมและเพิ่มประสิทธิภาพสารกำจัดแมลง สารป้องกันกำจัดโรคพืช สารกำจัดวัชพืช ปุ๋ย ฮอร์โมน และธาตุอาหารเสริมทางใบ ทำให้น้ำยาแผ่กระจายได้ทั่วใบ ลดการสูญเสียน้ำยาขณะฉีดพ่นทำให้ประหยัด และได้ผลดีเยี่ยม


วิธีใช้: ใช้ดีเทคเป็นตัวสุดท้าย หลังจากที่ผสมสารกำจัดศัตรูพืช หรือ ปุ๋ย ทางใบ รวมตัวกับน้ำดีแล้ว ตามอัตรา ดังนี้
1) สารกำจัดแมลง: 10 ซีซี ต่อน้ำยาที่ผสมแล้ว 20ลิตร
2) สารกำจัดวัชพืช: 10-20 ซีซี ต่อน้ำยาที่ผสมแล้ว 20ลิตร
3) ปุ๋ยเกล็ด, ปุ๋ยน้ำ, ฮอร์โมนพืช: 10 ซีซี ต่อน้ำยาที่ผสมแล้ว 20ลิตร

4) สารป้องกันกำจัดโรคพืช: 10 ซีซี ต่อน้ำยาที่ผสมแล้ว 20ลิตร

สารจับใบโอตอล เป็นสารจับใบชนิดดูดซึม เข้มข้น และสารแผ่กระจายใบ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของสารป้องกันกำจัดศัตรูพืช และปุ๋ยทางใบ

ประโยชน์: โอตอล เป็นสารแผ่กระจาย จับใบ ชนิดเข้มข้น ประกอบด้วยสารเปียกใบสารจับเกาะ และสารแผ่กระจายบนผิวในพืช ช่วยเสริมและเพิ่มประสิทธิภาพสารกำจัดแมลง สารป้องกันกำจัดโรคพืช สารกำจัดวัชพืช ปุ๋ย ฮอร์โมน และธาตุอาหารเสริมทางใบ ทำให้น้ำยาแผ่กระจายได้ทั่วใบ ลดการสูญเสียน้ำยาขณะฉีดพ่นทำให้ประหยัด และได้ผลดีเยี่ยม

โอตอล เป็นสารเสริมฤทธิ์ ที่มีคุณสมบัติเด่นกว่าสารจับใบอื่นๆ ดังนี้
- ช่วยแทรกซึม แผ่กระจาย ทั่วใบพืช
- ช่วยให้ยากำจัดศัตรูพืชรวมตัวกันได้ดีขึ้น
- ช่วยลดแรงตึงผิวของละอองน้ำยาบนใบพืชได้ดียิ่งขึ้นทำให้น้ำยา กระจาย กว้าง ไม่จับเป็นหยดร่วง
- ช่วยให้น้ำยาคงทนต่อการชำระล้างของฝน แสงแดด และลมโดยไม่ทำลายนวลผิวใบพืชทุกชนิด
- ป้องกันการสูญเสียของน้ำยาไม่ให้ไหลหยดลงดิน
- ช่วยลดการใช้สารเคมี
- ช่วยยืดระยะเวลาที่จะต้องฉีดพ่นยาให้นานวันขึ้น

วิธีใช้: ใช้โอตอลเป็นตัวสุดท้าย หลังจากที่ผสมสารกำจัดศัตรูพืช หรือ ปุ๋ย ทางใบ รวมตัวกับน้ำดีแล้ว ตามอัตรา ดังนี้
1) สารกำจัดแมลง: 10-12ซีซี ต่อน้ำยาที่ผสมแล้ว 20ลิตร
2) สารกำจัดวัชพืช: 12-25ซีซี ต่อน้ำยาที่ผสมแล้ว 20ลิตร
3) ปุ๋ยเกล็ด, ปุ๋ยน้ำ, ฮอร์โมนพืช: 10-12ซีซี ต่อน้ำยาที่ผสมแล้ว 20ลิตร
4) สารป้องกันกำจัดเชื้อรา: 10-12ซีซี ต่อน้ำยาที่ผสมแล้ว 20ลิตร

น้ำสกัดสมุนไพร ป้องกันหนอน แมลงศัตรูพืช เป็นผลิตภัณฑ์ไร้สารพิษ คือ สมุนไพรป้องกันแมลงศัตรูพืช ประกอบด้วยสมุนไพรหลากหลายชนิด ที่ผ่านการคัดเลือกมาเป็นอย่างดี

วัตถุดิบที่ใช้ผลิต: สกัดจากสมุนไพรหลายชนิด เช่น สะเดา, หนอนตายหยาก, ยาฉุน, ข่า, ตะไคร้หอม, ยูคาลิปตัส, เปลือกซาก, บอระเพ็ด, เถาวัลย์เปรียง และอื่นๆอีกมากมาย

ประโยชน์:
1. ป้องกันแมลงศัตรูพืช
2. ป้องกันเพลี้ยชนิต่างๆ
3. ป้องกันหนอนใยผัก หนอนหนังเหนียว หนอนกระทู้ หนอนกัดกินใบ และอื่นๆ
4. ประกอบด้วยเอนไซม์ที่เป็นประโยชน์ต่อพืชหลายชนิด


วิธีใช้: ใช้น้ำสกัดสมุนไพร 100ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร แล้วคนให้เข้ากัน ใช้ฉีดพ่นทางใบ ประมาณ7-10 วัน/ ครั้ง กรณีแมลงรบกวนมากๆ ให้ฉีดพ่นทางใบ 3-5วัน/ครั้ง

ข้อควรระวัง: ไม่ควรใช้น้ำสกัดสมุนไพรร่วมกับสารเคมี

การเก็บรักษา: เก็บไว้ในที่ร่ม ปิดฝาให้สนิท อย่าให้ถูกแสงแดด อุณหภูมิไม่เกิน 40 องศา อากาศถ่ายเทสะดวก


**************

**ปลีก-ส่ง: ติดต่อ/0819111285**

สารจับใบโอตอล เป็นสารจับใบชนืดดูดซึม และสารแผ่กระจายใบ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของสารป้องกันกำจัดศัตรูพืช และปุ๋ยทางใบ

ประโยชน์: โอตอล เป็นสารแผ่กระจาย จับใบ ชนิดเข้มข้น ประกอบด้วยสารเปียกใบสารจับเกาะ และสารแผ่กระจายบนผิวในพืช ช่วยเสริมและเพิ่มประสิทธิภาพสารกำจัดแมลง สารป้องกันกำจัดโรคพืช สารกำจัดวัชพืช ปุ๋ย ฮอร์โมน และธาตุอาหารเสริมทางใบ ทำให้น้ำยาแผ่กระจายได้ทั่วใบ ลดการสูญเสียน้ำยาขณะฉีดพ่นทำให้ประหยัด และได้ผลดีเยี่ยม

โอตอล เป็นสารเสริมฤทธิ์ ที่มีคุณสมบัติเด่นกว่าสารจับใบอื่นๆ ดังนี้
- ช่วยแทรกซึม แผ่กระจาย ทั่วใบพืช
- ช่วยให้ยากำจัดศัตรูพืชรวมตัวกันได้ดีขึ้น
- ช่วยลดแรงตึงผิวของละอองน้ำยาบนใบพืชได้ดียิ่งขึ้นทำให้น้ำยา กระจาย กว้าง ไม่จับเป็นหยดร่วง
- ช่วยให้น้ำยาคงทนต่อการชำระล้างของฝน แสงแดด และลมโดยไม่ทำลายนวลผิวใบพืชทุกชนิด
- ป้องกันการสูญเสียของน้ำยาไม่ให้ไหลหยดลงดิน
- ช่วยลดการใช้สารเคมีได้มากกว่า 20%
- ช่วยยืดระยะเวลาที่จะต้องฉีดพ่นยาให้นานวันขึ้น

วิธีใช้: ใช้โอตอลเป็นตัวสุดท้าย หลังจากที่ผสมสารกำจัดศัตรูพืช หรือ ปุ๋ย ทางใบ รวมตัวกับน้ำดีแล้ว ตามอัตรา ดังนี้
1) สารกำจัดแมลง: 10-20ซีซี ต่อน้ำยาที่ผสมแล้ว 20ลิตร
2) สารกำจัดวัชพืช: 20-30ซีซี ต่อน้ำยาที่ผสมแล้ว 20ลิตร
3) ปุ๋ยเกล็ด, ปุ๋ยน้ำ, ฮอร์โมนพืช: 20-30ซีซี ต่อน้ำยาที่ผสมแล้ว 20ลิตร
4) สารป้องกันกำจัดโรคพืช: 10-20ซีซี ต่อน้ำยาที่ผสมแล้ว 20ลิตร

สกัดจากเปลือกมังคุดชั้นดี พร้อมสมุนไพรที่มีประโยชน์ ตามกรรมวิธี ภูมิปัญญาชาวบ้าน เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

ช่วยป้องกัน และควบคุมเพลี้ยแป้ง และโรคใบหงิก ทำให้ต้นไม้เจริญเติบโตได้เต็มที่ สวยงาม

วิธีใช้: น้ำหมักสมุนไพรเปลือกมังคุด 3 ฝา ต่อน้ำ 1 ลิตร ฉีดพ่นทุกๆ 7 วัน


*** สามารถ ไล่แมลงวันทองได้****


**************

**ปลีก-ส่ง: ติดต่อ/0819111285**

คุณสมบัติ:
- เป็นสมุนไพรกำจัดแมลง และศัตรูพืชตามธรรมชาติเข้มข้น โดยสกัดมาจาก สะเดา ใบยาสูบ สาบเสือ และอีกหลายๆชนิดรวมกัน ผ่านการรับรองจากนักวิชาการเกษตร
- เป็นสมุนไพรที่ออกฤทธิ์รวดเร็ว ใช้กำจัดแมลงศัตรูพืช เช่น เพลี้ยใบ เพลี้ยแป้ง หนอนชอนใบ หนอนคืบ หนอนกระทู้ หนอนมอนใบแมลงก้นทอง ด้วงกระสมอ และแมลงอื่นๆ

การออกฤทธิ์: เมื่อฉีดพ่นแล้ว สมุนไพรจะซึมเข้าไปในตัวแลงศัตรูพืช จะทำลายวงจรชีวิต และตายในเวลาต่อมา

วิธีการใช้: อัตราส่วน 1.5-2ซีซี ต่อน้ำ1ลิตร หรือ 3-4ช้อนแกงต่อน้ำ20ลิตร คนให้เข้ากันและทั่ว และฉีดพ่นให้เข้ากันทุกส่วนของพืช ทุก 5-7 วัน พืชที่ได้รับการฉีดพ่นแล้วจะสดใส และใบเป็นมัน สะอาด

**ใช้ร่วมกับ ปุ๋ยน้ำ ปุ๋ยเล็ด ฮอร์โมน ยาฆ่าหญ้า ยาฆ่าแมลง ยาปราบศัตรูพืชชนิดต่างๆ**

น้ำยาจับใบสูตรพิเศษ โอ้โฮ ไบโอ-โปร ยาแผ่กระจายจับใบ(spreader-sticker) สูตรพิเศษ ผลิตขึ้นเพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของปุ๋ย และยาปราบศัตรูพืชชนิดต่างๆ เช่นยาป้องกันกำจัดโรคพืช ยาฆ่าแมลง ยาปราบวัชพืช ตลอดจนปุ๋ยเกล็ด ปุ๋ยน้ำทางใบชนิดต่างๆ นอกจากนี้แล้ว โอ้โฮ ไบโอ-โปร ยังสามารถใช้ทำความสะอาดถังฉีดพ่นยาได้อีกด้วย

คุณสมบัติ:
1. ช่วยลดการสูญเสียเนื่องจากการปลิวของละอองยา และจากการชะล้างอันเนื่องจากการรดน้ำหรือฝน
2. ช่วยให้การดูดซึมของตัวยาเข้าสู่ต้นพืช และเข้าสู่ผนังลำตัวของแมลงและหนอนต่างๆได้เร็วยิ่งขึ้น
3. ช่วยยืดช่วงเวลาการฉีดพ่นยาให้ยาวนานขึ้น
4. ช่วยทำให้ท่านประหยัดค่าใช้จ่ายต่างๆ ในการฉีดพ่นยา และให้การปราบศัตรูพืชได้ผลยิ่งขึ้น
5. สามารถนำไปใช้ได้กับพืชทุกชนิด เช่น ไม้ดอกไม้ประดับ นาข้าว พืชผัก พืชไร่ ไม้ผล และอีกมากมาย โดยเฉพาะ พืชที่มีใบเป็นมัน ใบนวล และใบคาย

วิธีใช้และอัตราการใช้:
1. ใช้ผสมกับยาฆ่าแมลงและยาป้องกันและกำจัดโรคพืช ในอัตรา 0.5ซีซี ต่อน้ำยาที่ผสมแล้ว 1 ลิตร หรือ ในอัตรา 10ซ๊ซี ต่อน้ำยาที่ผสมแล้ว 20 ลิตร

2. ใช้กับยากำจัดวัชพืช ในอีตรา 0.5-1ซีซี ต่อน้ำยาที่ผสมแล้ว 1 ลิตร หรือ ในอัตรา 10-20ซ๊ซี ต่อน้ำยาที่ผสมแล้ว 20 ลิตร

3. ควรผสมยาที่ใช้ป้องกันกำจัดศัตรูพืชในน้ำสะอาดให้เรียบร้อยเสียก่อน แล้วจึงเทยาจับใบลงในถังที่ผสมยาแล้ว

4.ต้องคนน้ำยาให้ทั่วถังก่อนจึงฉีดพ่น จะทำให้ตัวบามีประสิทธิภาพดีขึ้น

สารดึงดูดชนิดกลิ่นล่อกำจัดแมลงวันทอง(ฟีโรโมน) ระบบบ IPM

โดยนำยูจินอลซีหยดใส่วัสดุที่ดูดความชื้น เช่น สำลี หรือเศษผ้าให้พอชุ่ม แล้วนำไปใส่ขวดพลาสติกชนิดเปิดปากให้กว้าง แล้วนำไปแขวนตามกิ่งไม้ สูงจากพื้น 2-3เมตร ระยะห่างจุดละ 15-20เมตร หยดเพิ่มเติม 10-20 วันต่อครั้ง

สมุนไพรหมัก ป้องกันแมลงศัตรูพืช เพลี้ย หนอน ไรแดง มด มอด ปลวก แมลวัน หมัด เป็นสมุนไพรหมักหลายชนิด ที่ไม่เป็นอันตรายต่อคน สัตว์เลี้ยง และสิ่งแวดล้อมในบ้าน สำหรับไม้ดอกไม้ประดับ พืชสวนครัว และพืชอื่นๆ

ประโยชน์:
1. ทำให้ไข่แมลงฝ่อ ยับยั้งการกิน การลอกคราบ การขยายพันธุ์ของแมลงศัตรูพืช ไม่ทำลายแมลงที่มีประโยชน์ เช่น ตัวห้ำ ตัวเบียน ผึ้ง แมลงที่มีประโยชน์
2. เป็นสะเดาหมักสกัดด้วยสมุนไพรไทยขับไล่แมลงอื่นๆ
3.ไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์ สัตว์เลี้ยง ปลา นก และระบบนิเวศน์ นิยมในการใช้ไล่หมัด ยุง
4. ใช้ได้ทั้งไม้ดอก ไม้ประดับ พืชสวนครัว พืชไร่ พืชสวน และอื่นๆ

วิธีการใช้: 10-15ซีซี(3ฝา) ต่อน้ำ 1 ลิตร ฉีดพ่นทุก 7 วัน


---------------------------

**ปลีก-ส่ง: ติดต่อ/0819111285**

สมุนไพรหมัก ป้องกันแมลงศัตรูพืช เพลี้ย หนอน ไรแดง มด มอด ปลวก แมลวัน หมัด เป็นสมุนไพรหมักหลายชนิด ที่ไม่เป็นอันตรายต่อคน สัตว์เลี้ยง และสิ่งแวดล้อมในบ้าน สำหรับไม้ดอกไม้ประดับ พืชสวนครัว และพืชอื่นๆ

ประโยชน์:
1. ทำให้ไข่แมลงฝ่อ ยับยั้งการกิน การลอกคราบ การขยายพันธุ์ของแมลงศัตรูพืช ไม่ทำลายแมลงที่มีประโยชน์ เช่น ตัวห้ำ ตัวเบียน ผึ้ง แมลงที่มีประโยชน์
2. เป็นสะเดาหมักสกัดด้วยสมุนไพรไทยขับไล่แมลงอื่นๆ
3.ไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์ สัตว์เลี้ยง ปลา นก และระบบนิเวศน์ นิยมในการใช้ไล่หมัด ยุง
4. ใช้ได้ทั้งไม้ดอก ไม้ประดับ พืชสวนครัว พืชไร่ พืชสวน และอื่นๆ

วิธีการใช้: 10-15ซีซี(3ฝา) ต่อน้ำ 1 ลิตร ฉีดพ่นทุก 7 วัน


---------------------------

**ปลีก-ส่ง: ติดต่อ/0819111285**

คุณสมบัติ:
- เป็นสมุนไพรกำจัดแมลง และศัตรูพืชตามธรรมชาติเข้มข้น โดยสกัดมาจาก สะเดา ใบยาสูบ สาบเสือ และอีกหลายๆชนิดรวมกัน ผ่านการรับรองจากนักวิชาการเกษตร
- เป็นสมุนไพรที่ออกฤทธิ์รวดเร็ว ใช้กำจัดแมลงศัตรูพืช เช่น เพลี้ยใบ เพลี้ยแป้ง หนอนชอนใบ หนอนคืบ หนอนกระทู้ หนอนมอนใบแมลงก้นทอง ด้วงกระสมอ และแมลงอื่นๆ

การออกฤทธิ์: เมื่อฉีดพ่นแล้ว สมุนไพรจะซึมเข้าไปในตัวแลงศัตรูพืช จะทำลายวงจรชีวิต และตายในเวลาต่อมา

วิธีการใช้: สมุนไพรกำจัดแมลง 10-15 ซีซี(3ฝา) ผสมน้ำ 1 ลิตร ฉีดพ่นบริเวณใบ และลำต้น ทุก 7 วัน ตอนเช้าหรือเย็น

**************


**โหลละ 315 บาท***

ปลีก-ส่ง: โทร 081-9111285, 093-7411169

สกัดจากเมล็ดสะเดาที่มีสารออกฤทธิ์ปฎิกิริยาต่อการป้องกันและกำจัดศัตรูโรคพืช เช่น เพลี้ยอ่อน หนอนม้วนใบข้าว หนอนกะหล่ำใหญ่ หนอนแก้ว ด้วงหมัดผัก และอีกมากมาย ศัตรูพืชเหล่านี้จะทำให้พืชเสียหายได้ทุกรูปแบบ เช่น ใบผักเป็นรูพรุน ผลชมพู่มีหนอนอยู่ข้างในต้น พืชยืนตาย ซึ่งเป็นปัญหาอย่างมาก

คุณสมบัติ: ยับยั้งการกิน การลอกคราบของหนอน แมลง ต่างๆ และสามารถไล่แมลงศัตรูพืชต่างๆ เช่น เพลี้ย เพลี้ยแป้ง หนอน เป็นต้น และมีสารป้องกันเชื้อรา

อัตราการใช้:
1. ช่วงที่ไม่มีการระบาดของโรคและแมลง: ใช้ 1ฝา ต่อน้ำ 20 ลิตร รดราดทุกๆ 3 วัน
2. ช่วงที่เกิดโรคระบาด: เพิ่มความเข้มข้นเป็น 2 เท่า และฉีดพ่นทางใบ และรดราดให้ทั่วบริเวณวันละ 2 ครั้ง(เช้า-เย็น) ทุกๆวัน
หมายเหตุ: น้ำหมักสะเดาออร์คิดวันพลัส ไม่ทนทานต่อสงแดด ควรทำการฉีดพ่น หรือ รด ราด ในตอนเย็น หรือเวลาที่มีแดดอ่อนๆ จะทำให้การดูดซึมของต้นพืชได้ผลมากขึ้น


---------------------------

**ปลีก-ส่ง: ติดต่อ/0819111285**

คุณสมบัติ:
1. ยับยั้งการกิน(Anti Feedant)
2. ยับยั้งการลอกคราบ (Chitin Inhibition)ของหนอน แมลงต่างๆ
3. สามารถไล่แมลงศัตรูพืชต่างๆ (Repellant) เช่น เพลี้ย เพลี้ยแป้ง เพลี้ยไฟ ไรแดง เพลี้ยจั๊กจั่นสีเขียว เพลี้ยกระโดสีน้ำตาล หนอนชอนใบ หนอนกระทู้ขาว และอีกมากมาย

ประโยชน์:
1. สะเดา ไม่ทำลายแมลงที่เป็นประโยชน์ พวกตัวห้ำ และตัวเบียน เช่น แมงมุม ผึ้ง แมลงปอ ต่อ แตน
2. สะเดา ไม่เป็นอันตรายต่อนก และ ปลา
3. สะเดา ไม่ทำลายสภาพนิเวศน์วิทยา
4. สะเดา ปลอดภัยต่อผู้ใช้และผู้บริโภค


วิธีใช้/อัตราการใช้:
สะเดาน้ำ 500ซีซี(1ขวด) ผสมน้ำ 2ปี๊บ ฉีดพ่นทุก 7 วัน *เขย่าขวดก่อนใช้*


**************

**ปลีก-ส่ง: ติดต่อ/0819111285**

ประโยชน์: ใช้ป้องกันกำจัดหนอนกอข้าวในข้าว

วิธีใช้: ใช้ในอัตรา 4 ก.ก./ ไร่ หว่านให้ทั่ว เมื่อเริ่มพบการระบาดของหนอนกอข้าวในข้าว

ฮอร์โมนป้องกันศัตรูพืช กำจัดแมลง หนอนชอนใบ เพลี้ย เหมาะสำหรับต้นไม้ทุกชนิด


คุณสมบัติ:
ไบโอ-ไวท์ ทำให้พืชผลผิวเป็นมันสะอาด ไม่เป็นพิษต่อมนุษย์และสัตว์เลี้ยง ใช้ได้กับไม้ดอก ไม้ประดับ และพืชต่างๆ เช่น ทุเรียน มังคุด เงาะ ฟักแฟง แตงกวา แตงโม พริก มะเขือ หอม กระเทียม กะหล่ำปลี กะหล่ำดอก พืชผักต่างๆ มะระ บวบ องุ่น ส้ม มะนาว ละมุด พุทรา มะม่วง ชมพู่ มะปราง ฝ้าย กาแฟ มันฝรั่ง ถั่วต่างๆ


ประโยชน์:
สามารถกำจัดและป้องกันไรแดง หนอน และเพลี้ยต่างๆได้เป็นอย่างดี ใช้ได้กับไม้ดอก ไม้ประดับ พืชผลต่างๆ นับแต่เริ่มปลูก จนตลอดอายุของพืช ไม่เป็นอันตรายใดๆต่อพืช เมื่อใช้แล้วตัวยานี้จะซึมซาบเข้าไปในส่วนต่างๆของพืชได้อย่างรวดเร็ว ทำให้เจริญเติบโตรวดเร็ว แข็งแรง เร่งการออกดอก ออกผล เพิ่มปริมาณผลผลิต นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันโรคอื่นๆได้ เช่น โรคดอกร่วง โรคผลร่วง โรคใบเหี่ยว โรคใบจุด ใบลาย ใบหงิก โรคโคนเน่า โรคขี้เรื้อน โรคแผลแตก โรคผลเน่า และอื่นๆ


วิธีและอัตราการใช้:
- เขย่าขวดก่อนใช้ทุกครั้ง
- คลายหัวฉีดที่ล็อคอยู่ ปรับตั้งหัวฉีดให้น้ำที่ออกมาเป็นฝอยๆ
- ฉีดช่วงเช้า หรือตอนเย็นที่อากาศไม่ร้อน
- ฉีดพ่นให้ทั่วทุกส่วนของพืช ทุก 5-7 วัน
- พืชที่ได้รับการฉีดพ่นแล้วจะดูสดใส และใบเป็นมันสะอาด


* จำหน่ายปลีก/ ส่ง: ติดต่อ คุณเปิ้ล/ 081-9111285 *

สารดึงดูดชนิดกลิ่นล่อกำจัดแมลงวันทอง(ฟีโรโมน) ระบบบ IPM

โดยนำยูจินอลซีหยดใส่วัสดุที่ดูดความชื้น เช่น สำลี หรือเศษผ้าให้พอชุ่ม แล้วนำไปใส่ขวดพลาสติกชนิดเปิดปากให้กว้าง แล้วนำไปแขวนตามกิ่งไม้ สูงจากพื้น 2-3เมตร ระยะห่างจุดละ 15-20เมตร หยดเพิ่มเติม 10-20 วันต่อครั้ง

ประโยชน์: ใช้กำจัดหอย

อัตราการใช้: ทานาเท็กด์ 30-40 ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร แช่เหง้าขมิ้น หรือพืช ประมาณ 10-15 นาที ก่อนนำไปปลูก

ประโยชน์: ใช้กำจัดหนอน ปลวก มอด

อัตราการใช้: โมลิคอล 15-50 ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร พ่นเมื่อพบหนอน แมลง หรือใบถูกทำลาย

คุณสมบัติ: ใช้ป้องกัน ขับไล่ เพลี้ยทุกชนิด กับพืชทุกชนิด

วิธีการใช้: สามสำเภา 1-2 ช้อนโต๊ะ ผสมน้ำ 1 ลิตร ฉีดพ่นบริเวณใบ และลำต้น ทุก 7-10 วัน

**************

**ปลีก-ส่ง: ติดต่อ/0819111285**

คุณสมบัติ: ใช้ป้องกัน ขับไล่ หนอนที่รุกรานพืช ต้นไม้ ชนิดรุนแรง ผลิตด้วยเทคโนโลยีชีวภาพเพื่ออนาคต ไม่เป็นอันตรายต่อผู้ใช้ ไม่มีพิษตกค้าง

วิธีการใช้: สาบเสือ 10-15 ซีซี(3ฝา) ผสมน้ำ 1 ลิตร ฉีดพ่นบริเวณใบ และลำต้น ทุก 7 วัน

**************

**ปลีก-ส่ง: ติดต่อ/0819111285**

คุณสมบัติ: ใช้ป้องกัน ขับไล่ เพลี้ยต่างๆ หนอนใย หนอนกระทู้ หนอนคืบ หนอนชอนใบ หนอนม้วนใบ แมลงหวี่ แมลงวันทอง ราน้ำค้าง ราแป้ง ราสนิม ด้วงหมัดผัก ด้วงเจาะสมอ

วิธีการใช้: สาบเสือ 10-15 ซีซี(3ฝา) ผสมน้ำ 1 ลิตร ฉีดพ่นบริเวณใบ และลำต้น ทุก 7 วัน

**************

**ปลีก-ส่ง: ติดต่อ/0819111285**

มี 2 ขนาดบรรจุ
1) ขนาดบรรจุ 100 ซีซี
2) ขนาดบรรจุ 500 ซีซี

คุณสมบัติ: ใช้ป้องกัน ขับไล่ กำจัด หนอน เพลี้ย แมลง ด้วง ไร เชื้อรา และแมลงศัตรูพืช

วิธีการใช้: God Power 50-100 ซีซี ผสมน้ำ 10 ลิตร ผสมน้ำราดโคนต้น หรือฉีดพ่นบริเวณใบ และลำต้น ทุก 3-7 วัน

**************

**ปลีก-ส่ง: ติดต่อ/0819111285**

สกัดจากเมล็ดสะเดาที่มีสารออกฤทธิ์ปฎิกิริยาต่อการป้องกันและกำจัดศัตรูโรคพืช เช่น เพลี้ยอ่อน หนอนม้วนใบข้าว หนอนกะหล่ำใหญ่ หนอนแก้ว ด้วงหมัดผัก และอีกมากมาย ศัตรูพืชเหล่านี้จะทำให้พืชเสียหายได้ทุกรูปแบบ เช่น ใบผักเป็นรูพรุน ผลชมพู่มีหนอนอยู่ข้างในต้น พืชยืนตาย ซึ่งเป็นปัญหาอย่างมาก

คุณสมบัติ: ยับยั้งการกิน การลอกคราบของหนอน แมลง ต่างๆ และสามารถไล่แมลงศัตรูพืชต่างๆ เช่น เพลี้ย เพลี้ยแป้ง หนอน เป็นต้น และมีสารป้องกันเชื้อรา

อัตราการใช้:
1. ช่วงที่ไม่มีการระบาดของโรคและแมลง: ใช้ 1ฝา ต่อน้ำ 20 ลิตร รดราดทุกๆ 3 วัน
2. ช่วงที่เกิดโรคระบาด: เพิ่มความเข้มข้นเป็น 2 เท่า และฉีดพ่นทางใบ และรดราดให้ทั่วบริเวณวันละ 2 ครั้ง(เช้า-เย็น) ทุกๆวัน
หมายเหตุ: น้ำหมักสะเดาออร์คิดวันพลัส ไม่ทนทานต่อสงแดด ควรทำการฉีดพ่น หรือ รด ราด ในตอนเย็น หรือเวลาที่มีแดดอ่อนๆ จะทำให้การดูดซึมของต้นพืชได้ผลมากขึ้น


---------------------------

**ปลีก-ส่ง: ติดต่อ/0819111285**

ประโยชน์: ใช้กำจัดหนอน แมลง เพลี้ย ด้วง มวน เป็นต้น

อัตราการใช้:
- 1 ช้อนชา หยอดในหลุมก่อนปลูก
- 4 ก.ก. ต่อไร่ โดย โปรยหว่านให้ทั่วพื้นที่ปลูก

ประโยชน์: ใช้กำจัดหนอน แมลง เพลี้ย ด้วง มวน เป็นต้น

อัตราการใช้:
- 1 ช้อนชา หยอดในหลุมก่อนปลูก
- 4 ก.ก. ต่อไร่ โดย โปรยหว่านให้ทั่วพื้นที่ปลูก

ประโยชน์: ใช้กำจัดหนอน แมลง เพลี้ย ด้วง มวน เป็นต้น

อัตราการใช้: S-85 20 กรัม ผสมน้ำ 20 ลิตร พ่นเมื่อพบหนอน แมลง หรือใบถูกทำลาย

ชื่อสามัญ: คาบาริล Carbaryl

ประโยชน์: ใช้กำจัดหนอน แมลง เพลี้ย เป็นต้น

อัตราการใช้: พอสน์ 30 ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร พ่นเมื่อพบหนอน แมลง หรือใบถูกทำลาย

ประโยชน์: ใช้กำจัดหนอน แมลง เพลี้ย เป็นต้น

อัตราการใช้: พอสน์ 100 ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร พ่นเมื่อพบหนอน แมลง

ประโยชน์: ใช้กำจัดหนอน แมลง เช่น หนอนคืบ เพลี้ยอ่อน หนอนกระทู้ หนอนเจาะฝัก หนอนเจาะสมอฝ้าย เพลี้ยไฟ หนอนเจาะลูกมะเขือ หนอนกินดอกยาสูบ เพลี้ยอ่อน หนอนม้วนใบ หนอนกระทู้ หนอนเจาะฝัก หนอนผีเสื้อ ด้วงน้ำมัน มวนเขียวข้าว หนอนคืบละหุ่ง หนอนห่อใบงา หนอนผีเสื้อหัวกะโหลก หนอนกะทู้ควายพระอินทร์ เพลี้ยอ่อน หนอนกินใบฝ้ายเป็นต้น

อัตราการใช้: แลนเนท 20-35 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร พ่นเมื่อพบการระบาด หรือ 5-7 วันต่อครั้ง

ประโยชน์: ใช้กำจัดหนอน ไร แมลง เช่น เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล เพลี้ยไฟ ด้วงหมัดผัก หนอนชอนใบ เพลี้ยไก่แจ้ เพลี้ยจั๊กจั่น แมลงหวี่ขาว แมลงวันหนอนชอนใบ เพลี้ยอ่อน เป็นต้น

อัตราการใช้: สตาร์เกิล 10 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร พ่นเมื่อพบการระบาด

ประโยชน์: ใช้กำจัดหนอน ไร แมลง เช่น เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล เพลี้ยไฟ ด้วงหมัดผัก หนอนชอนใบ เพลี้ยไก่แจ้ เพลี้ยจั๊กจั่น แมลงหวี่ขาว แมลงวันหนอนชอนใบ เพลี้ยอ่อน เป็นต้น

อัตราการใช้: สตาร์เกิล 10 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร พ่นเมื่อพบการระบาด