รหัส : 11/02932

ราคาปกติ :  50.00      

รายละเอียดย่อ :

มิกโบนัส เป็นธาตุอาหารรอง อาหารเสริม ช่วย ขยายขนาดลูก เพิ่มน้ำหนักผล

คุณสมบัติ: เป็นปุ๋ยเคมีชนิดน้ำ ซึ่งประกอบด้วยธาตุอาหารรอง อาหารเสริม ดังนี้

ปริมาณธาตุอาหารรอง:
แคลเซียม CaO 1.0%

ปริมาณธาตุอาหารเสริม:
แมงกานีส Mn 1.0%
โบรอน ฺB 1.5%

อาหารเสริมพืชสูตรเข้มข้น: เป็นธาตุอาหารที่ผ่านกระบวนการย่อยสลายเป็นอย่างดี มีส่วนผสมตามอัตราส่วนที่พืชสามารถดูดซับเข้าทางปากใบได้เป็นอย่างดี และดูดได้ในปริมาณมาก โดยไม่เป็นอันตรายต่อพืช


คุณประโยชน์:
- ช่วยให้พืชฟื้นตัวจากการทรุดโทรม และน้ำท่วมขัง
- ช่วยให้ใบเขียวเข้ม และอวบกว่าปรกติ
- ช่วยให้ผลโตเร็วกว่าปรกติ
- ช่วยเพิ่มน้ำหนัก เพิ่มปริมาณ และเพิ่มรสชาติ
- ช่วยในการสะสมอาหาร เพื่อการติดดอกออกผล
- ช่วยให้ขั้วเหนียว ป้องกันผลร่วง ผลแตก
- ช่วยเร่งให้เก็บเกี่ยวผลผลิตได้ก่อนกำหนด




ประโยชน์: เป็นโครงสร้างผนังของเซลล์พืช ทำให้พืชมีความแข็งแรง และช่วยในการสร้างโปรตีน ช่วยขยายขนาดของผล และป้องกันไม่ให้ผล เถา หรือ ผักแตก ทำให้เนื้อแน่ ป้องกันแกนไส้นิ่ม รสชาติและสีดีขึ้น ช่วยในการเคลื่อนย้ายน้ำตาลจากลำต้น ใบ มาสู่ผล และเมล็ด สามารถเก็บสะสมอาหาร ผลมีการพัฒนา เจริญเติบโตได้อย่างสมบูรณ์ ลดปัญหาการหลุดร่วงของผลไม้
ธาตุนี้มีบทบาทสำคัญในการสังเคราะห์แสง มีส่วนในเมตาบอลิซึมของเหล็ก และไนโตรเจน ช่วยในการผสมเกสรได้ดี ป้องกันเมล็ดลีบ เพิ่มน้ำหนัก ทำให้พืชนำธาตุโปแตสเซียม และธาตุแคลเซียม ไปใช้ได้ดีขึ้น มีบทบาทในการย่อยและสังเคราะห์โปรตีน และคาร์โบไฮเดรท จำเป็นในการแบ่งเซลพืช ช่วยการขนย้ายน้ำตาลทางท่ออาหารในพืช จำเป็นสำหรับการงอกของละอองเรณูและการเจริญของท่อนิวเคลียสของเรณู มีส่วนเกี่ยวข้องกับการดูดและคลายน้ำและการสังเคราะห์แสง




อัตราการใช้:

1) พืชกลุ่ม แตงต่างๆ ถั่วฝักยาว ถั่วลันเตา มะเขือต่างๆ ผักกาดหอม ไม้ดอกไม้ประดับและไม้ผล: ใช้ มิกโบนัส 10-20 ซีซี/ น้ำ 20ลิตร พ่นให้เป็นละอองเล็กๆ พอเปียกทั่วใบและทุกๆส่วนของพืช ทุกๆ 7-10 วัน

2) พืชกลุ่ม ผักตระกูลกะหล่ำ: ใช้ มิกโบนัส 10-20 ซีซี/ น้ำ 20ลิตร พ่นให้เป็นละอองเล็กๆ พอเปียกทั่วใบและทุกๆส่วนของพืช ทุกๆ 7-10 วัน


3) พืชกลุ่ม พืชหัว หอม แครอท มันฝรั่ง สับปะรด: ใช้ มิกโบนัส 10-20 ซีซี/ น้ำ 20ลิตร พ่นให้เป็นละอองเล็กๆ พอเปียกทั่วใบและทุกๆส่วนของพืช ทุกๆ 7-10 วัน





ข้อควรระวัง:
1. โดยทั่วไปแล้วปุ๋ยเคมี พ่นทางใบ พืชใช้ประโยชน์ได้น้อย ควรใช้ปุ๋ยเคมีทางใบเสริมกับการให้ปุ๋ยเคมีทางดิน
2. ควรพ่นในช่วงเวลาเช้าหรือเย็น ในเวลาที่อากาศไม่ร้อน ลมไม่พัดแรง และคาดว่าฝนไม่ตก
3. ขณะที่พ่น พืชต้องไม่เหี่ยวเฉา หรือขาดน้ำ
4. การพ่น อย่าให้ถึงเปียกโชก เพราะจะทำให้เสียค่าปุ๋ยเพิ่มขึ้น และประสิทธิภาพปุ๋ยเคมีที่ใช้พ่นทางใบเมื่อตกลงดินจะมีประสิทธิภาพเท่ากับปุ๋ยเคมีที่ใส่ทางดิน
5.ควรเก็บรักษาปุ๋ยเคมีในภาชนะที่มิดชิด ในที่ร่มและแห้ง และเก็ลในที่ปลอดภัย ห่างไกลจากมือเด็ก
6. ระวังอย่าให้ถูกผิวหนังหรือเข้าตา หากถูกผิวหนังหรือเข้าตา ให้ล้างด้วยร้ำสะอาดทันที
7. ปุ๋ยเหลวอาจมีก๊าซเกิดขึ้น และอาจเป็นอันตรายได้ง่าย ควรเปิดด้วยความระมัดระวัง